9 เหตุการณ์ยุ่งเหยิง บนเวทีฟุตบอลโลก ตอนปิดท้าย ที่บทสรุปเรื่องราวนั้น มีผลกระทบโดยตรงต่อ ฟอร์มการเล่นของทีม หวังเพื่อเป็นการปลุกกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ที่ผ่านไปแล้วกว่า ครึ่งทางจำนวน 5 เหตุการณ์ด้วยกัน

แฟนๆ คงได้เห็นกันไปแล้วว่า การทำทีมชาติลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่ แต่มีเวลาคลุกคลี กับนักเตะแค่ช่วงสั้นๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะปรับจูนทัศนคติให้ตรงกัน

การเตรียมทีม ให้สมบูรณ์พร้อมก่อนการแข่งขัน จะเริ่มต้นขึ้น ต่อให้วางแผนมาดีแค่ไหน ก็ไม่อาจควบคุม เรื่องของปัจจัยผันผวน

ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับตัวบุคคล ที่เกี่ยวข้องระหว่างทางได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอีโก้ ความกดดัน ที่ถาโถมเข้ามา ความไม่พึงพอใจในบางเรื่อง

แม้แต่เงินสนับสนุน การอัดฉีดต่างๆ ล้วน สามารถส่งผลต่อสภาพจิตใจ ของขุนพลโดยรวมได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก

หากจะเห็นชาติเล็กๆ กลายร่างเป็น แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ส่งทีมใหญ่ๆ กลับบ้านแบบหักปากกาเซียน เพราะมีทีมสปิริตที่สูงกว่าในเวลานั้น แล้วกล้าเดิมพัน แบบไม่มีอะไรจะเสีย

บทความนี้ พร้อมนำเสนอคอนเทนต์เดิม แบบต่อเนื่องไม่ให้ขาดตอน ซึ่งจะเหลือเหตุการณ์สำคัญๆ อีก 4 เรื่องราวด้วยกัน

เมื่ออ่านข้อมูลต่างๆ แบบคร่าวๆ แล้ว สาเหตุจุดเริ่มต้น แตกต่างกันออกไป อาจเกิดจาก ตัวบุคคลเองบางส่วน รวมไปถึงการจัดการที่ย่ำแย่ของสมาคม

อันเกิดในช่วงเวลา ที่ต่างยุคต่างสมัยกันออกไป มาดูไปพร้อมๆ กันเลยว่า แต่ละประเด็นเกิดขึ้นในบอลโลกครั้งไหน? สาเหตุความล้มเหลวมาจากอะไร?

9 เหตุการณ์ยุ่งเหยิง เรื่องที่ 4-3

ซัวเรซ โชว์สันดานดิบ จอมกัด

เริ่มต้นกันที่ประเด็นของ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ก่อนทัวร์นาเมนต์ บอลโลก 2014 จะแข่งขันกันไม่นาน

ซึ่งเจ้าตัวดัน ไปให้สัมภาษณ์เท่ห์ๆ หวังให้แฟนบอล ลืมเรื่องราวแย่ๆ เกี่ยวกับตัวเขาก่อนหน้านี้ ที่ถูกตราหน้าเรื่องการเล่นที่สกปรก

ไม่ว่าจะเป็น การกัดคู่แข่ง การตั้งใจทำแฮนด์บอล และ การเหยียดผิว ที่เป็นประเด็นที่ น่ารังเกียจ และ ยอมรับไม่ได้ทั้งสิ้น

แล้วเจ้าตัวหวังว่า การทำสกอร์บนเวทีนั้นได้ จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของเขา ในสายตาแฟนบอลนั้นดีขึ้นกว่าเดิม ได้ไม่มากก็น้อย

อย่างไรก็ตาม ซัวเรซ ที่ยิงสองประตู ส่ง ทีมชาติอังกฤษ กลับบ้าน ก็มาปล่อย สัญชาติญาณดิบ ด้วยการตั้งใจกัดไหล่ของ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี

จนโดนแบบการเล่นทีมชาติ 9 นัด และ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลอาชีพ เป็นเวลา 4 เดือนเต็มๆ อันส่งผลให้ประธานาธิบดีของ อุรุกวัย อย่าง โฮเซ่ โมฮิก้า ถูกทาง ฟีฟ่า ตราหน้าว่า ผู้นำของกลุ่มนักกัดระดับโลก แบบโดนลูกหลงซะเฉยๆ

เรื่องวุ่นๆ ในแคมป์วิสกี้

ต่อเนื่องกันที่เเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นบนเวที บอลโลกปี 1978 กับ ทีมชาติสก็อตแลนด์ ที่ก่อนจะไปลุยศึกดังกล่าว พวกเขามีทีมที่สมบูรณ์พร้อม

รวบรวมนักเตะฝีเท้าเยี่ยม เอาไว้มากมาย แต่ตัวโค้ชอย่าง อัลลี่ แม็คลีด ดันประมาทคู่แข่งเกินไป ไม่ส่งแมวมองไปสืบข้อมูล ทีมชาติเปรู

เช่นเดียวกับ อิหร่าน ชาติชั้นนำจากเอเชีย ที่ถูกมองเป็น ม้านอกสายตา ผลจบลง ด้วยการพ่ายยับ และ เสมอตามลำดับ เกมสุดท้ายกับ ฮอลแลนด์ ขุนพลแดนวิสกี้ เอาชนะได้ก็จริง แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป

แถมการจัดการของสมาคมก็ย่ำแย่ จองโรงแรมที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ให้เข้าพัก ยิ่งไปกว่านั้นนักเตะอย่าง วิลลี่ จอห์นสโตน ก็ถูกส่งกลับบ้านกลางคัน

เพราะไม่ผ่านการตรวจสารเสพย์ติด กลายเป็นความทรงจำที่ย่ำแย่ที่สุดของขุนพล ตาร์ตัน ที่จอดป้ายแค่รอบแรก

9 เหตุการณ์ยุ่งเหยิง เรื่องที่ 2

ทีมชาติสเปน ปลด โลเปเตกี ก่อนบอลโลกไม่นาน

เข้าสู่กันที่ เหตุการณ์รองสุดท้าย เกิดขึ้นกับ อดีตแชมป์โลกอย่าง ทีมชาติสเปน ที่กำลังจะแถลงข่าว เรื่องความพร้อมของทีมอยู่รอมร่อ

แต่ประธานสมาพันธ์อย่าง หลุยส์ ลูเบียเลส ตัดสินใจปลดโค้ช ที่ทำทีมมาตั้งแต่ รอบคัดเลือก ออกจากตำแหน่งก่อนบอลโลก 2018 จะเริ่มอีกแค่สองวัน

เนื่องจาก ฆูเลน โลเปเตกี กับ เรอัล มาดริด ดันไปแอบเจรจากันล่วงหน้า เรื่องการรับงาน หลังจบการแข่งขัน ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจขึ้น จนทีมสปิริตตกต่ำ

สุดท้ายการเลือกตัวแทนเป็น เฟร์นานโด เอียร์โร่ ที่ประสบการณ์ไม่พอ เลยทำให้ทัพ กระทิงดุ จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการพ่ายให้กับเจ้าภาพอย่าง รัสเซีย

นับเป็นการก้าวถอยหลัง แล้วนับมาจนถึงทุกวันนี้ สเปน ยังพยายามหาทาง กลับไปสู่จุดเดิมที่ควรจะเป็น เหมือนในสมัยยุคทอง ที่ไม่ว่าเจอกับชาติใด ทุกทีมย่อมต้องหวั่นเกรงพวกเขาทั้งสิ้น

เรื่องที่หนึ่ง

ปิดท้ายกันที่ประเด็นของ ทีมชาติโตโก ที่ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลกปี 2006 ได้แบบพลิกโผสุดๆ แต่แทนที่จะจดจำว่า เป็นเรื่องราวดีๆ ครั้งแรก

แต่กลับเกิดปัญหา ก่อนจะเริ่ม แบบน่าเกลียดสุดๆ เพราะ เหล่านักเตะชุดดังกล่าว ปฏิเสธที่จะลงสนาม นอกจากจะได้เงินโบนัสราว 1 แสนปอนด์ต่อคน

ซึ่งตัวประธาน สมาคมฟุตบอลของโตโก ได้ออกมาเปิดเผยตามตรงว่า พวกผู้เล่นเหล่านั้น “หิวเงินเกินไป” เพราะเดิมทีประเทศของพวกเขา ก็มีปัญหาสภาพคล่องการเงินหนักอยู่แล้ว

สุดท้าย ฟีฟ่า ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย ให้ทุกอย่างพอจะเดินต่อไปได้ แบบทุลักทุเลสุดๆ บทสรุปลงเอยที่ พวกเขาตกรอบด้วยการพ่ายสามเกมติด ในรอบแบ่งกลุ่มแบบน่าอาย เป็นของแถมให้ช้ำใจเพิ่มอีกด้วย

มองจากสภาพการณ์ตอนนี้ โอกาสของ โตโก ที่จะทำผลงานได้ดีระดับนั้นอีก คงเป็นไปได้ยากเต็มทน เพราะแทบไม่เหลือสตาร์ ที่พอจะมีฝีเท้าสู้กับทีมอื่นๆ แล้วฟัดกันได้แบบสูสีอีกแล้ว

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง