11 ผู้เล่น ที่ปฏิเสธการเล่นให้กับทัพ สิงโตคำราม ตอนแรก

Home / 11 ผู้เล่น ที่ปฏิเสธการเล่นให้กับทัพ สิงโตคำราม ตอนแรก

11 ผู้เล่น ที่ปฏิเสธการเล่นให้กับทัพ สิงโตคำราม เป็นประเด็นว่ากันถึง ทีมชาติอังกฤษ ขวัญใจแฟนบอลชาวไทยและอีกหลายๆ คนทั่วโลก ถือเป็นหนึ่งชาติที่มีดีกรีไม่ธรรมดา เคยประสบความสำเร็จในการครองแชมป์โลกมาแล้ว 1 สมัย แม้ว่าจะห่างหายความสำเร็จระดับเมเจอร์มานานแสนนาน

แต่ชื่อเสียงของพวกเขายังคงขายได้อยู่ ด้วยการอ้างว่าเป็นชาติหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ เกี่ยวข้องกับวงการลูกหนังมาอย่างยาวนาน

ก่อนที่เกมกีฬา ฟุตบอล จะได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก สื่อบางเจ้าถึงกับอ้างว่า พวกเขา คือ ชาติที่ริเริ่มการละเล่นชนิดนี้เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามถ้าวิจารณ์กันตามตรงแล้ว สื่อต่างๆ ภายในประเทศของพวกเขา ที่มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอล มักจะอวยนักเตะชาติตัวเองเป็นพิเศษ

ทั้งที่ฝีเท้าและเกรดฟุตบอลพอไปเทียบกับชาติชั้นนำอื่นๆ แล้วไม่ได้เหนือกว่า เรียกว่า โอเวอร์เรท ก็ไม่ผิดนัก แต่การปั่นราคานักเตะในศึก พรีเมียร์ลีก จนเว่อร์วังอลังการ

ทำให้นักเตะฝีเท้าโอเวอร์เรทบางราย มีมูลค่าแพงเกินจริง สามารถจูงใจแฟนบอลที่ไม่ได้ติดตามเชิงลึก ให้เข้าใจไปโดยปริยายว่า กลุ่มนักเตะราคาแพงเหล่านั้นต้องเก่งระดับโลกแน่ๆ

ยิ่งไปกว่านั้นทัพ สิงโตคำราม มองกันเชิงลึกแล้วไม่ต่างกับ เสือกระดาษ ที่มักจะล้มเหลวบนเวทีใหญ่ๆ เป็นประจำ จนมีนักเตะฝีเท้าดีหลายราย ปฏิเสธที่จะเล่นให้พวกเขา แม้ว่าจะมีโอกาสเลือกได้ก็ตามที

บทความนี้ พร้อมนำเสนอคอนเทนต์เกี่ยวกับ 11 ผู้เล่นที่เลือกจะไม่เล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป

มาให้แฟนๆ ได้รับชมกันเช่นเคย ซึ่งจะขอแบ่งออกเป็นสองตอน เพื่อความยาวในการให้ข้อมูล โดยตอนเปิดหัวคัดมาทั้งหมด 6 รายเป็นการเรียกน้ำย่อย

มาดูไปพร้อมๆ กันเลยว่า สตาร์ที่เข้าข่ายเหล่านั้นจะมีใครกันบ้าง? เหตุผลของพวกเขาที่เลือกไปเล่นให้กับชาติอื่นๆ นั้่นคืออะไร?

11 ผู้เล่น รายที่ 11-10

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

11 ผู้เล่น-11

เริ่มกันที่รายแรกเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า ที่ฟอร์มกำลังขึ้นหม้อที่สุดคนหนึ่งในวงการตอนนี้ นั่นก็คือ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ดาวยิงเท้าระเบิดจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ความจริงแล้วพ่อของเขา อัลฟ์ อิงเก้-ฮาลันด์ เคยค้าแข้งเล่นให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ อีกหลายสโมสร แล้วเป็นช่วงที่ลูกของเขาเกิดพอดี

ทำให้มีสิทธิ์เลือกเล่นให้กับทัพสิงโตคำรามได้ อย่างไรก็ตาม ฮาลันด์ ตัดสินใจเล่นให้กับ นอร์เวย์ ตามรอยพ่อของเขา แม้ว่าจะเป็นชาติที่ไม่ผ่านเข้าไปเล่นรายการใหญ่ๆ ตั้งแต่ปี 2000

แต่ผลงานบนเวทีทีมชาติตั้งแต่เขาลงเล่น แล้วกดไป 21 ประตู จากการลงสนาม 22 นัด เชื่อว่าอีกไม่นาน คงผนึกกำลังกับจอมทัพอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด พาทีมไปได้ไกลแน่ๆ

จามาล มูเซียล่า

11 ผู้เล่น-10

ต่อเนื่องกันที่รายที่สองเป็นผู้เล่นดาวรุ่งฟอร์มแรง ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป้นความหวังใหม่ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยไอคิวฟุตบอลที่ไม่ธรรมดา สร้างสรรค์เกมบุกได้สุดจัดจ้าน

นั่นก็คือ จามาล มูเซียล่า ที่เกิดที่เมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมัน แต่ไปเติบโตที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้เขามีสิทธิ์เล่นให้กับทั้งสองชาติยักษ์ใหญ่ได้ทั้งคู่

แต่หลังจาก มูเซียล่า ใช้เวลาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ถึงโอกาสในการเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ในระยะยาว เขาก็เลือกเล่นให้กับ อินทรีเหล็ก ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ตกลงใจได้ง่ายๆ

หากวัดจากพัฒนาการตอนนี้ ในวัยยังไม่ถึง 20 ปี แต่มีโอกาสได้ไปลุยบอลยูโรมาแล้วหนึ่งสมัย แล้วจ่อจะได้ไปเล่นบอลโลกในอีกไม่กี่เดือน มูเซียล่า คงคิดถูกแล้ว

11 ผู้เล่น รายที่ 9-7

ไรอัน กิ๊กส์

11 ผู้เล่น-9

ถัดมาที่เคสของแนวรุกฝั่งซ้าย ที่ทาง สิงโตคำราม เกลี่้ยกล่อมไม่สำเร็จในยุคที่กำลังขาดผู้เล่นตำแหน่งนี้มาเติมเต็มให้สมบูรณ์ จะเป้นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ไรอัน กิ๊กส์

ปีกพ่อมดทีมชาติเวลส์ ซึ่งเคยเล่นให้กับอังกฤษมาก่อนตอนอยู่ระดับไฮสคูล แล้วรับบทบาทกัปตันทีมชาติไปถึง 9 ครั้ง พาทีมถล่ม เวลส์ ไปถึง 4-0 หนึ่งครั้ง

กิ๊กส์ เกิดที่เมืองคาร์ดดิฟฟ์ พ่อ-แม่ เป็นคนเวลส์แท้ๆ แต่ย้ายมาเรียนและเล่นฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ ทำให้เขามีสิทธิ์เล่นให้กับทัพ ทรี ไลอ้อนส์ ได้เหมือนพลเมืองทั่วไป

อย่างไรก็ตามเมื่อไตร่ตรองแล้ว กิ๊กส์ เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า ถึงตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จกับ เวลส์ แต่การที่ลงเล่นให้ชาติที่พ่อ-แม่ และตัวเขา ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรด้วย ไม่ใช่แผ่นดินเกิด คงไม่ใช่หนทางที่ดีกว่าแน่นอน

วิลฟรีด ซาฮา

11 ผู้เล่น-8

รายต่อมาเป้นผู้เล่นในตำแหน่งแนวรุกผิวสี ที่เล่นได้ทั้งตัวริมเส้นและกองหน้าตัวเป้า เคยติดทีมชาติอังกฤษไปแล้วหนึ่งเกมนัดอุ่นเครื่องกับ สวีเดน ในปี 2012

แต่สุดท้ายแล้ว วิลฟรีด ซาฮา ก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนไปเล่นให้กับ ไอวอรี่ย์ โคสต์ แทนในปี 2016 เพราะมองว่า โอกาสจะได้เล่นให้กับทีมระยะยาวนั้นมากกว่า

เมื่อต้องไปแข่งขันกับนักเตะฝีเท้าดีอีกหลายรายในแดนผู้ดี แล้วถูกมองข้ามจาก แกเร็ธ เซาท์เกต อยู่เสมอ ซึ่งเป็นการเลือกที่ไม่ผิดนัก เพราะเขามีชื่อไปลุยศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ ในปี 2017

ปัจจุบันติดทัพ ช้างดำ ไปแล้ว 29 นัด ยิงไปแล้ว 5 ประตู ยังคงติดโผแนวรุกตัวเลือกแรกๆ ของทีมอยู่เป็นประจำ แบบไม่ต้องไปแข่งขันกับใครให้เหนื่อยรากเลือด

โจวานนี่ เรย์น่า

เข้าสู่รายรองสุดท้ายกันที่ ผู้เล่นดาวรุ่งในตำแหน่งแนวรุกจากสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่มีพ่อเป็นนักเตะชื่อดังทีมชาติสหรัฐอเมริกาอย่าง เคลาดิโอ เรย์น่า

แล้วช่วงที่ค้าแข้งอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ ก็ให้กำเนิด โจวานนี่ เรย์น่า ในเกาะอังกฤษแบบพอดิบพอดี ทำให้ เรย์น่า คนลูก สามารถเลือกเล่นให้กับทัพ สิงโตคำราม ได้

อย่างไรก็ตาม เคลาดิโอ เป็นผู้เล่นระดับตำนานแดนลุงแซม เคยพาทีมลุยบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วสองสมัย คงจะเป็นเรื่องแปลกไม่น้อย หากลูกจะเลือกเล่นคนละสัญชาติกับพ่อ

ปัจจุบันในวัย 19 ปี โจวานนี่ ติดทีมชาติชุดใหญ่ของอเมริกาไปแล้วตั้งแต่ปี 2020 ในเกมที่พบกับ เวลส์ แล้วจ่อคิวไปลุยบอลโลกช่วงปลายปีนี้ ตามรอยพ่อของเขาร่วมกับนักเตะยุค โกลเด้น เจเนอเรชั่น รายอื่นๆ

รายที่ 6

11 ผู้เล่น – วิคเตอร์ โมเสส

ปิดท้ายกันที่ผู้เล่นในตำหน่งตัวริมเส้นสาระพัดประโยชน์ แม้ว่าจะเกิดที่ประเทศไนจีเรีย แต่ผลของการจลาจลของสงครามศาสนาที่ กาดูน่า ทำให้ครอบครัวของ วิคเตอร์ โมเสส ที่เหลืออยู่หลังเสีย พ่อและแม่ ไป ได้รับการอพยพมายังประเทศอังกฤษ เพื่อมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ตั้งแต่อายุได้ 11 ปี หลังจากแจ้งเกิดกับ คริสตัล พาเลซ

กลายเป้นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามอง โมเสส ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก ไล่เรียงมาตั้งแต่ชุดอายุต่ำกว่า 16 ปี ยาวไปยัน 21 ปี เช่นเดียวกับ โชล่า อเมโอบี้

แต่สุดท้ายแล้ว โมเสส เลือกตัดสินใจเล่นทีมชาติชุดใหญ่ให้กับ ไนจีเรีย ตามถิ่นฐานที่แท้จริงของเขา แล้วเคยติดทีมไปลุยศึกบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้วถึงสองสมัยด้วยกัน

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง