ทีมชาติโปรตุเกส อีกหนึ่งทีมหัวแถวจากทวีปยุโรป แค่ชื่อชั้นของพวกเขา ที่เคยผ่านการเป็นแชมป์ทวีป และศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก คงเพียงพอแล้วในสายตาแฟนบอล ให้จับตามองผลงานในบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งอาจเป็นเวทีสั่งลาของนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ที่เป็นตำนานของพวกเขาอีกด้วย

รอบคัดเลือกที่ผ่านมา แดนฝอยทอง ถูกจัดดอยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับทีมแกร่งอย่าง เซอร์เบีย, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก และ อาเซอร์ไบจาน ซึ่งมองผ่านๆ แล้วอาจเป็นงานที่ไม่ยากเท่าไหร่ แต่ปรากฏว่า พวกเขาทำได้ดีที่สุด เพียงแค่การจบในตำแหน่งที่สองของกลุ่ม

เก็บคะแนนไปได้เพียง 17 แต้ม ยางแตกในช่วงท้าย ด้วยผลงานชนะ 5 เสมอ 2 และแพ้ 1 นัด ยิงไป 17 ประตู และเสีย 6 ลูก เป็นรองแชมป์กลุ่มอย่าง เซอร์เบีย 3 แต้ม ส่งผลให้ต้องไปลุ้นต่อในรอบ เพลย์ ออฟ ที่เอาชนะผ่าน มาร์ซิโดเนียเหนือ มาได้แบบสบายๆ 2-0

การกลับมาเล่นบอลโลกครั้งนี้ โปรตุเกส ถูกจัดมาอยู่ในกลุ่ม เอช ร่วมกับชาติคู่แข่งอย่าง กาน่า, อุรุกวัย และ เกาหลีใต้ เหมือนจะเป็นงานที่ดูไม่ยากนัก แต่ธรรมชาติเรื่องฟอร์มการเล่นของพวกเขา ที่เป็นประเภทเเครื่องร้อนช้า ทำให้ไว้วางใจสถานการณ์ใดๆ ไม่ได้ทั้งนั้น

เมื่อมองย้อนกลับไปในบอลโลกปี 2018 ที่ถูกจัดไปอยู่ในกลุ่ม บี มีของแข็งเพียงแค่ สเปน ชาติเดียว ยังเกือบเอาตัวไม่รอด จบแค่ตำแหน่งรองแชมป์กลุ่ม พอผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็จอดป้ายในการไปดวลกับ อุรุกวัย ที่พ่ายไปด้วยสกอร์ 1-2 ตกรอบไปเร็วเกินคาด เล่นเอาแฟนบอลช้ำกันไปเป็นแถบ

ดังนั้นการเตรียมทีมครั้งนี้ สตาฟฟ์โค้ช, นักเตะ และ สมาคมฟุตบอลของพวกเขา ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างดีที่สุดด เพื่อหวังแก้ตัวจากความผิดหวังในครั้งก่อน มาดูไปพร้อมๆ กันเลยว่า ข้อมูลสำคัญต่างๆ ในเรื่องของ กุนซือ, นักเตะ และ เป้าหมายของพวกเขา จะเป็นอย่างไรกันบ้าง?

กุนซือ ทีมชาติโปรตุเกส

สมาคมฟุตบอลของแดนฝอยทอง ยังคงไว้วางใจให้ทาง เฟร์นานโด ซานโตส เทรนเนอร์มือเก๋าวัย 67 ปี กุมบังเหียนซูเปอร์สตาร์ มาลุยศึกในครั้งนี้เหมือนเช่นเดิม แม้ว่าผลงานในช่วงหลัง จะค่อนข้างไปทางไม่เข้าตาเท่าไหร่นัก แต่ข้อดี คือ การร่วมงานกับตัวหลักของทีม มาอย่างยาวนาน จนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

ก่อนหน้าที่จะมาจับงานคุมทีม ซานโตส เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน ค้าแข้งในยุค 70 ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในช่วงปลายยุค 80 เคยผ่านการลงเล่นให้กับทีมดังๆ ในประเทศอย่าง เบนฟิก้า, เอสโตริล และ มาริติโม่ แต่ไม่ได้ประสบความสำเร็จ จนสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังเป็นที่รู้จัก

การจับงานคุมทีมครั้งแรก ซานโตส เริ่มงานกับสโมสรสุดท้าย ตอนเป็นนักเตะอาชีพอย่าง เอสโตริล ด้วยการเป็นผู้จัดการทีมทันที ฉายแววดีตั้งแต่ออกตัว อยู่ในตำแหน่งงานได้อย่างเหนียวแน่น ทำทีมยาวนานถึง 6 ปีเศษ

หลังจากนั้นก็พเนจรไปเรื่อย รับงานคุมทีมทั่วยุโรปทั้งในและนอกประเทศ มีช่วงเวลาดีๆ กับทีมชื่อดังอย่าง เอฟซี ปอร์โต้, เออีเค เอเธนส์, พานาธิไนกอส, สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ เบนฟิก้า ก่อนจะผันตัวเข้าสู่เวทีการคุมทีมชาติกับ กรีซ ในปี 2010

หลังจากอยู่ในตำแหน่งได้ราว 4 ปี ก็แยกทางกับ ดินแดนเทพนิยาย แล้วโดนตามตัวกลับมาทำทีมชาติบ้านเกิด ในปี 2014 ซึ่งเขาใช้เวลาสองปี ก็พาทัพ โปรตุเกส ครองแชมป์ยูโรได้อย่างยิ่งใหญ่ในปี 2016 แต่ฟอร์มในสนามออกแนวกระท่อนกระแท่น

ระบบการเล่นที่ ซานโตส ชื่นชอบ คือ 4-1-4-1 เน้นเกมรับให้เหนียวแน่นไว้ก่อน ไม่ได้ก็ไม่เสีย ตรงกันข้ามกับศักยภาพทีมที่มีอยู่ในมืออย่างชัดเจน พอถึงเวลาจำเป็นต้องเร่งเกม จะปรับเป็น 4-3-3 เติมแนวรุกลงไปให้เต็มข้อ แล้วอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของสตาร์บางราย เป็นทีเด็ดในการล่าตาข่ายคู่แข่ง

นักเตะ ทีมชาติโปรตุเกส

อายุเฉลี่ยของนักเตะโปรตุเกสชุดนี้ อยู่ที่ราว 26.9 ปี เป็นการผสมผสานผู้เล่นสองยุค ระหว่างสายเลือดใหม่ ที่กำลังก้าวขึ้นมารับไม้ต่อจากรุ่นพี่ ผนวกเข้ากับตัวเก๋าบางราย ที่อยู่ในช่วงท้ายของการค้าแข้ง ผู้เล่นแต่ละคนล้วนมีดีกรีไม่ธรรมดา ค้าแข้งอยู่กับสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป แฟนบอลล้วนคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี อันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง ของพวกเขา รั้งอยู่ที่ 9 ของโลก ขึ้นๆ ลงๆ ตามผลงานที่ไม่แน่ไม่นอน

ตำแหน่งผู้รักษาประตู

มือหนึ่งของทีม ที่ยึดตำแหน่งมาอย่างยาวนาน แล้วผลงานคงเส้นคงวาสุดๆ ต้องยกให้ รุย ปาทริซิโอ นายทวารวัย 34 ปี จากสโมสร โรม่า จุดเด่นของเขา คือ ปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็ว มีลูกเซฟเว่อร์ๆ ให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ เก็บประสบการณ์ค้าแข้งบนเเวทีระดับสูงมาแล้วมากมาย เวทีใหญ่ครั้งนี้อาจเป็นทัวร์นาเมนต์สั่งลาของเขาในนามทีมชาติ เพราะตัวแทนอย่าง โฆเซ่ ซา กำลังพัฒนาฝีมือขึ้นมา จนแทบจะเทียบชั้นได้แล้ว

ตำแหน่งกองหลัง – ทีมชาติโปรตุเกส

หากมองหาผู้นำในแนวรับ ที่มีผลงานไว้ใจได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้น รูเบน ดิอาส เซนเตอร์แบ็คตัวแกร่ง วัยแค่ 25 ปี จากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น ดุดัน และ มีความเป็นผู้นำในตัวสูง ซึ่งปราการหลังรายนี้ จะกลายเป็นคีย์แมนในยุคต่อไปของทีม หลังถ่ายเเลือกครั้งใหญ่อย่างแน่นอน

ตำแหน่งกองกลาง

ถ้ามองหานักเตะสาระพัดประโยชน์ ที่มีคำจำกัดความว่า จิ๋วแต่แจ๋ว คงไม่มีตัวเลือกอื่นใดดีไปกว่า แบร์นาโด้ ซิลวา กองกลางจอมขยันจาก เรือใบสีฟ้า ที่ยืนได้ทั้งตำแหน่งริมเส้น เพลย์เมคเกอร์ และ กองกลางตัวเชื่อมเกม ซิลวา ไม่ได้มีดีเฉพาะแค่การครองบอล การลากตะลุยฝ่าแนวรับ

แต่การเล่นเกมป้องกันของเขา สามารถแย่งบอลจากเท้าคู่แข่งได้แบบเนียนตา ในวัย 28 ปี ช่วงเวลานี้ คือ จุดพีคในการค้าแข้ง ซึ่งตัวเขาคงอยากได้แชมป์ระดับชาติ มาเติมเกียรติประวัติให้ตัวเองอยู่เหมือนกัน

ตำแหน่งกองหน้า

นาทีนี้คงต้องยกให้ดาวยิงเลือดใหม่อย่าง ราฟาเอล เลเอา ศูนย์หน้าจาก เอซี มิลาน ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอด พาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกอิตาลีได้สำเร็จ เมื่อฤดูกาลก่อน เขาเป็นผู้เล่นที่มีรูปร่างสูงใหญ่ มีทักษะการครองบอล ลากตะลุยเลี้ยงหลบคู่แข่งที่ยอดเยี่ยม เสียแค่เรื่องของการตัดสินใจจังหวะสุดท้าย และ การยิงประตูที่ขาดความเฉียบคม แต่ดด้วยอายุแค่ 23 ปี ยังเหลือเวลาให้เขาพัฒนาตนเองอีกมาก แล้วน่าจะขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคต รับบทบาทตัวชูโรงให้กับทีมไดด้ในยุคต่อไป

สตาร์ประจำทีม

เมื่อพูดถึงโปรตุเกส ชื่อแรกที่แฟนบอลคิดถึง ย่อมเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าระดับตำนาน จากสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อายุย่างเข้า 38 ปีแล้ว แต่พกสถิติส่วนตัวอันแสนน่าครั่นคร้าม มาอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นผู้ครองสถิติยิงประตูให้กับทีมชาติสูงสุด เคยรับรางวัล บัลลงก์ ดอร์ มาแล้วถึง 5 สมัย แน่นอนว่าเจ้าตัวคงอยากสั่งลาสวยๆ ด้วยการเป็นแชมป์โลก ก่อนแขวนสตั๊ดในอีกไม่ช้าแน่ๆ

เป้าหมาย

หากตั้งมาตรฐานเทียบกับผลงานครั้งก่อน โปรตุเกส คงหวังให้ผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปให้ได้ แต่ถ้ามองเรื่องของชื่อชั้น ถ้าพวกเขาจอดป้ายก่อนรอบรองชนะเลิศ คงจะเป็นการเสียรังวัดไม่น้อย เพราะศักยภาพผู้เล่น แทบไม่ได้เป็นรองทีมใดเลยบนเวทีนี้ เนื่องจากขนเหล่าซุปตาร์มาเต็มทีม

รอบแบ่งกลุ่ม แดนฝอยทอง คงต้องตั้งเป้าเป็นแชมป์ เพื่อผ่านไปเเล่นในรอบ น็อค เอาท์ ซึ่งต้องไปวัดเรื่องดวงกันอีกทีว่า จะผ่านเข้าไปชนตอชาติใหญ่ๆ หรือไม่? อันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะเจอกับทีมระดับเดียวกันทีไร ผลงานจะออกมาหืดจับทุกที แล้วส่วนใหญ่จะแพ้ความกดดัน เล่นผิดฟอร์มกันไปเองแบบน่าเกลียด

หากพวกเขาจอดป้ายก่อน 4 ทีมสุดท้าย การันตีได้เลยว่า ซานโตส เทรนเนอร์คนปัจจุบัน เตรียมหางานใหม่ล่วงหน้าไว้ได้เลย เพราะดูท่าว่า แทคติกส์ของเขาที่แสนโบราณ คงพาทีมมาถึงทางตันแล้วแน่ๆ

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง