ทีมชาติเม็กซิโก ชุดลุยบอลโลก 2022

Home / ทีมชาติเม็กซิโก ชุดลุยบอลโลก 2022

ทีมชาติเม็กซิโก หนึ่งชาติตัวแทนจากโซนคอนคาเคฟ ซึ่งเป็นขาประจำในรายการนี้ หากไม่มีข้อผิดพลาดอะไร แทบจะได้โควต้ามาร่วมแข่งทุกสมัย ยกเว้นเพียงแต่ว่าเข้าสู่ยุคถ่ายเลือด ขุมกำลังดาวรุ่งโตขึ้นมาแทนที่ตัวเก๋าไม่ทัน แต่นั่นแทบจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องยากพวกเขามีลีกอาชีพที่แข็งแกร่ง เป็นแหล่งฟูมฟักผู้เล่นชั้นดี

ทัพจังโก้ ผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์ มีประตูได้เสียที่เป็นรอง แคนาดา ที่รอบนี้ผลงานแรงเกินความคาดหมายอย่างมาก เพราะเข้าสู่ยุค โกลเด้น เจเนอเรชั่น แบบพอดิบพอดี ซึ่งแฟนบอลต่างรอคอยวันนี้มานานแสนนาน ตรงกันข้ามกับชาวเม็กซิกัน ที่เริ่มออกอาการเป็นห่วงขุนพลตัวแทนชาติ เพราะกำลังหลักเริ่มเข้าสู่วัยโรยรา

บนเวทีนี้ครั้งที่แล้วในปี 2018 พวกเขาผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เข้าไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่มีคู่แข่งร่วมกลุ่มสุดแข้ง อาทิ เยอรมัน แชมป์เก่า, สวีเดน ทีมจอมเขี้ยว จากยทวีปยุโรป และ เกาหลีใต้ ชาติตัวท็อปจากทวีปเอเชีย

การเก็บชัยชนะสองนัด ได้มา 6 แต้ม เป็นรองแค่ลูกได้เสีย ทำให้พวกเขาผ่านไปฐานะรองแชมป์กลุ่ม เอฟ โชคร้ายต้องไปชนกับ บราซิล เต้ยแห่งวงการลูกหนัง สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว พ่ายตกรอบ 16 ทีมไปด้วยสกอร์ 0-2 แพ็คกระเป๋ากลับบ้านแบบไม่เต็มใจนัก

การกลับมารอบนี้ ที่ต้องเดินทางมาแข่งขันในโซนเอเชีย ซึ่งมีสภาพอากาศออกแนวร้อน ไม่ต่างจากถิ่นฐานบ้านเกิดของพวกเขา เม็กซิโก จะอาศัยความได้เปรียบตรงจุดนี้ได้มากขนาดไหน? สถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับสตาฟฟ์โค้ช, นักเตะ และ เป้าหมายของพวกเขาเป็นอย่างไร? บทความนี้รวบรวมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

กุนซือ ทีมชาติเม็กซิโก

การลุยศึกบอลโลกหนนี้ เม็กซิโก วางใจให้เทรนเนอร์มือเก๋าชาวอาร์เจนไตน์อย่าง เกรราร์โด้ มาร์ติโน่ วัย 59 ปี เป็นผู้กุมบังเหียนขุนพลของพวกเขา ดีกรีของกุนซือรายนี้ไม่ธรรมดา เคยเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียง ในการค้าแข้งแถบโซนอเมริกาใต้มาก่อน

เริ่มต้นอาชีพกับสโมสร นีเวลล์ โอลด์ บอย ในบ้านเกิด แล้วด้วยฝีเท้าอันโดดเด่น สโมสรในลีกสเปนอย่าง เตเนริเฟ่ ก็ยืมตัวเขาไปใช้งาน แต่ปรากฏว่า ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก สุดท้ายต้องกลับมาผจญเส้นทางในทวีปที่เขาคุ้นเคยอย่างอเมริกาใต้กับหลายทีม อาทิ เช่น ลานุส, บาร์เซโลน่า เอสซี และ โอ ฮิกกิ้นส์ แล้วปิดฉากอาชีพนักเตะในปั 1997

หลังจากยุติการเป็นพ่อค้าแข้ง มาร์ติโน่ เลือกเดินเส้นทางสายโค้ชต่อทันที โดยมีสโมสรเล็กๆ ในบ้านเกิดอย่าง บราวน์ อาร์เรชิเฟส ให้โอกาสเขาได้ลองดำรงค์ตำแหน่งผู้จัดการทีม แต่อยู่กับทีมได้ไม่นานก็แยกทางกัน แล้วขยับไปอยู่กับทีมที่ใหญ่ขึ้นอีกระดับอย่าง พลาเตนเซ่ ในปี 1999

ผลงานของเขาค่อนข้างไปได้สวย มีการเริ่มต้นที่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ชื่อของเขา กลายเป็นตัวเลือกของหลายทีมชั้นนำในอเมริกาใต้ ที่ต้องการใช้บริการ ส่งผลให้ชีพจรลงเท้า เดินทางไปรับงานแบบไม่มีหยุดตั้งแต่ปี 2002 ยาวไปจนถึง 2006 โดยที่ถินฐานสำคัยในการทำมาหากินจะอยู่แถบ อาร์เจนติน่า และ ปารากวัย ยกตัวอย่างเช่น เซนทรัล คอร์โดบ้า, โคล่อน, ลิเบอร์ตาด เป็นต้น

จากความคุ้นเคยกับนักเตะปารากวัย รู้แนวทางการพัฒนาลีก เห็นผู้เล่นที่เติบโตมาแบบรุ่นสู่รุ่น ทำให้ มาร์ติโน่ ได้รับงานการคุมทีมชาติครั้งแรกกับชาตินี้ในปี 2007 แล้วอยู่ยาวมาจนถึงปี 2011 เนื่องจากถึงทางตันของสองฝ่าย เลยแยกทางกันไปตามวิถีฟุตบอล

หลังจากนั้น มาร์ติโน่ ที่เริ่มกลายเป็นกุนซือมือเก๋า ประสบการณ์และโปรไฟล์ไม่ธรรมดา ก็ได้รับงานที่ใหญ่ขึ้น ในการไปคุม นีเวลล์ โอลด์ บอย, บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติอาร์เจนติน่า บ้านเกิด แต่ไม่ปังดังที่หลายคนคาดการณ์ เลยหันมารับงานที่เบาลงในการคุม แอตแลนต้า ในศึก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ก่อนจะมาลงเอยกับ เม็กซิโก ในปี 2019 ยาวมาจนถึงปัจจุบัน ค่าเแลี่ยในกาคุมทีมหนึ่งครั้ง ตกอยู่ที่ราว 1.68 ปี

ระบบการเล่นที่เขาชอบใช้ คือ 4-3-3 เน้นเกมรุกที่วูบวาบเร้าใจ มีการเติมเกมจากปีกและแบ็คสองข้าง ที่ทำหน้าที่ทั้งเปิดบอลและหาจังหวะสอดเข้าไปยิง คอยป้อนบอลสวยๆ ให้ศูนย์หน้าตัวเป้า กองกลางสามคนจะแบ่งหน้าที่ชัดเจน มีตัวรับห้อยท้ายหน้าแผงหลัง คอยทำหน้าที่ตัดเกม ก่อนเข้าพื้นที่อันตราย ส่วนอีกสองคนจะรับบทบาท บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ มีบทบาททั้งรุกและรับ

นักเตะ ทีมชาติเม็กซิโก

อายุเฉลี่ยของผู้เล่นชุดนี้นั้นน้อยเอามากๆ ตกอยู่ที่ราว 24.8 ปีเท่านั้น เพราะมีดาวรุ่งที่เริ่มก้าวขึ้นมาเป็นหน้าใหม่ ให้เลือกใช้งานมากมาย แต่เรื่องของประสบการณ์ยังไม่น่าไว้ใจ เลยทำให้เทรนเนอร์จำเป็นต้องเรียกตัวเก๋า มาคอยประคองน้องๆ อยู่ในทุกแดน ทั้ง หลัง, กลาง และ หน้า อันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง ของพวกเขาอยู่ที่ 12 ถือว่าไต่ขึ้นมาได้ดี จากผลงานคัดบอลโลก และ เกมอุ่นเครื่อง

ตำแหน่งผู้รักษาประตู

นาทีนี้ฟอร์มของนายทวารหลายราย กำลังขับเคี่ยวกันสุดๆ เพื่อหวังสืบทอดตำแหน่งต่อจากตัวเก๋าอย่าง กิลเยร์โม่ โอชัวร์ ที่ครองมือหนึ่งมานับทศวรรษ แล้วดูท่าว่า คาร์ลอส อาเซเวโด้ จอมหนึบจาก ซานโตส ลากูน่า วัย 26 ปี น่าจะดูมีภาษีดีสุด แม้ว่าจะติดทีมชาติมาเพียงแค่สองนัด แต่ผลงานในบอลลีกของเขา กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ เผลอๆ อาจได้แจ้งเกิดในทัวร์นาเมนต์นี้ จนได้ย้ายมาค้าแข้งในยุโรปก็เป็นได้

ตำแหน่งกองหลัง

ขอเลือกไปที่แบ็คจอมบุกวัย 23 ปี จากสโมสร ปาชูก้า อย่าง เควิน อัลวาเรซ ที่สามารถลงเล่นได้ทั้งสองฝั่ง มีการเติมเกมรุกที่เมามันเร้าใจ ทักษะฟุตบอลในการพาบอลลากตะลุยขึ้นหน้า แทบไม่ต่างจากปีกตัวจี๊ด ขาดเพียงแค่ประสบการณ์ ที่ต้องใช้เวลาสั่งสมกันไป การเอาดาวเตะรายนี้ติดทีมไป ถือว่าประหยัดโควต้าได้ดีเลยทีเดียว

ตำแหน่งกองกลาง

จอมทัพของจังโก้ชุดนี้ ต้องยกให้ หลุยส์ โรโม่ ตัวคุมจังหวะเกมเชิงดีจากสโมสร มอนเตอร์เรย์ ที่ติดทีมชาติมาแล้วกว่า 20 นัด โรโม่ สามารถเล่นได้หลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นกองกลางตัวรับ คอยตัดเกมก่อนเข้าพื้นที่สุดท้าย กองกลางแบบ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ หรือแม้แต่ขยับลงไปเล่นเซนเตอร์แบ็ค ในวัย 27 ปี ความเก๋าคงช่วยประคองน้องๆ ได้มาก รวมไปถึงการเข้าบอลที่หนักแน่น ทำให้คู่แข่งรู้สึกขยาดไม่อยากปะทะด้วย

ตำแหน่งกองหน้า ทีมชาติเม็กซิโก

สำหรับตัวจบสกอร์เบอร์หนึ่งของทีมในยุคนี้ ต้องฝากความหวังไว้กับ ราอูล ฆิเมเนซ ดาวยิงจากสโมสร วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่กดประตูในนามทีมชาติไปแล้วถึง 30 ลูก ใกล้รับใช้ชาติครบ 100 นัดเต็มที แม้ว่าอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ จทำให้เขาลดดความดุดันในการเล่นลงไปบ้าง แต่เชื่อว่าเวทีใหญ่ที่สุดแบบนี้ มีเท่าไหร่รับรองใส่หมดแม็ก

สตาร์ประจำทีม

หากนึกถึงปีกตัวจี๊ด ที่สามารถความหวังในการลากเลื้อยฝ่าแนวรับ ยิงประตูสำคัญๆ ในจังหวะตัดสินเกม มีแพสชั่นในการเล่นแบบเกินร้อย คงไม่มีใครจะเหมาะสมในการนำทัพไปมากกว่า เออร์วิ่ง โลซาโน่ แนวรุกตัวเก่งจากสโมสร นาโปลี อายุอานามที่กำลังเข้าสู่ช่วงพีคของการค้าแข้งที่ราว 26 ปี บอลโลกสมัยนี้อาจกลายเป็นเวทีให้เขาเฉิดฉาย เผื่อว่าจะขยับไปอยู่กับทีมที่ใหญ่ขึ้น

เป้าหมาย

ทีมชาติเม็กซิโก-1

เป้าหมายของ เม็กซิโก ที่อยู่ร่วมกลุ่มกับ อาร์เจนติน่า, โปแลนด์ และ ซาอุดิอาระเบีย คงมองไว้ที่การผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปให้ได้ก่อน เนื่องจากถ้าวัดกันที่ศักยภาพผู้เล่นแล้ว ทัพฟ้าขาว น่าจะลอยลำจองอันดับหนึ่ง เหลือตำแหน่งรองแชมป์ให้ลุ้นกันอีกหนึ่งที่ ซึ่งคงต้องไปวัดกันตรงๆ กับ โปแลนด์

หากสมาคมฟุตบอลของพวกเขา ตั้งใจจะตัดเกรดกันที่เอาผลงานครั้งก่อนเป็นเกณฑ์วัด คงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ที่จะผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายเข้าไป เพราะโอกาสที่จะไปชนกับแชมป์กลุ่มอื่นๆ ที่เต็มไปด้วย เสือ สิงห์ กระทิง แรด

ถ้าให้มองสภาพทีมตอนนี้ บอกตามตรงเลยว่า ถ้าไปถึงรอบ น็อค เอาท์ ได้แบบครั้งก่อน ก็น่าชื่นชมขุนพลชุดนี้แล้ว เนื่องจากกำลังเข้าสู่ยุคถ่ายเลือด เหลือสตาร์ที่ฝากความหวังเอาไว้ได้ แค่ไม่กี่รายเท่านั้นเอง

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลา้วยประการทั้งปวง