ทีมชาติอิหร่าน แชมป์กลุ่ม เอ จากศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เป็นหนึ่งในทีมม้ามืดจากทวีปนี้ ที่ทำผลงานได้ดีกว่าชาติอื่นๆ ที่เป็นตัวเต็งเสียอีก ผลงานของพวกเขาที่กวาดชัยไปได้ถึง 8 จาก 10 นัด นับว่าไม่ธรรมดา ทั้งที่ผู้เล่นของพวกเขาไม่ได้มีสตาร์ดังมากมาย ที่ออกไปค้าแข้งกระจายอยู่กับสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป

ข้อเสียของพวกเขายังคงแก้ไม่หาย เมื่อเข้าถึงรอบสุดท้ายทีไร มักจะโชคร้ายไปอยู่ในกลุ่มที่มีตัวเต็ง เจอแต่ของแข็งอยู่เสมอ ทำให้พลาดตกรอบแบ่งกลุ่มอยู่เป็นประจำ เหมือนในครั้งก่อนที่ทำผลงานได้ดีแล้ว แต่การต้องเบียดกับชาติชั้นนำอย่าง โปรตุเกส และ สเปน คะแนนเพียง 4 แต้มนั้นไม่เพียงพอต่อการผ่านเข้ารอบ

การกลับมาแก้ตัวในครั้งนี้ ตัวเก๋าจากชุดบอลโลกครั้งก่อน ยังคงเป็นแกนหลักในการพาน้องๆ หน้าใหม่ ไปลุยทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอล พัฒนาการของพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้าง? ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะต่างต้องทุ่มกันสุดตัวแค่ไหน? เป้าหมายของพวกเขาตั้งเอาไว้อย่างไร? มาดูข้อมูลความพร้อมล่าสุดไปพร้อมๆ กัน บทความนี้ทีมงาน worldcup2022qa จัดให้รับกระแสบอลโลกกันแบบเนื้อๆ เน้นๆ

กุนซือ ทีมชาติอิหร่าน

ทีมชาติอิหร่าน กลับมาลุยศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ด้วยการเลือกเปลี่ยนเทรนเนอร์จากครั้งก่อน ด้วยการดึงตัว ดราแกน สโคซิช ผู้จัดการทีมชาวโครเอเชีย วัย 53 ปี ที่เป็นจอมพเนจรคนหนึ่งในวงการ มารับงานตั้งแต่ปี 2020 แล้วทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว

สโคซิช เริ่มต้นเส้นทางการคุมทีมกับสโมสร ริเยลก้า ทีมดังในบ้านเกิดในปี 2005 ก่อนจะย้ายไปคุมทีม เอ็นเค อินเตอร์บล็อค ในลีกประเทศสโลวีเนียในปี 2008

หลังจากนั้นก็เปิดแมพมาผจญภัยแถบเอเชีย ด้วยการรับงานคุมทีม อัล อราบี และ อัล นาสเซอร์ เป็นช่วงสั้นๆ ในปี 2010-11 แล้ววนกลับไปช่วย ริเยลก้า อีกครั้ง แล้วก็โดนปลดในช่วงเวลาไม่กี่เดือน

ต่อมาเขากลับมารับงานในแถบอาหรับกับ มาลาวาน, ฟูลัด, คูเน่ห์ และ ซานัท นาฟท์ เฉลี่ยการอยู่คมทีมของเขาแต่ละที่ อยู่ที่ระยะเวลาแค่ปีกว่าๆ เท่านั้น

แต่หลังจากเดือนกุมภาพันธุ์ ปี 2020 ที่เข้าจับงานคุมทีมชาติอิหร่าน แล้วผลงานเข้าตา เลยทำลายค่าเฉลี่ยของตัวเอง ที่เป็นจอมพเนจรได้แล้ว แต่ถ้าจบทัวร์นาเมนต์นี้ แล้วทำผลงานได้ไม่ตรงเป้า น่าจะได้แยกทางกันอีก

ระบบการเล่นถนัดของ สโคซิช คือ 4-1-4-1 เน้นความเหนียวแน่นในแดนกลาง เพราะอัดมิดฟิลด์มาถึง 5 คน เพื่อคุมพื้นที่ ขอแค่มีแต้มในแต่ละนัดเอาไว้ก่อน ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เกมรุกอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ รวมไปถึงจังหวะฉาบฉวยในการจบสกอร์ ที่เข้าทำแบบไม่เปลืองจังหวะ

นักเตะ ทีมชาติอิหร่าน

อิหร่าน ชุดลุยบอลโลก 2022 มีค่าเฉลี่ยอายุของผู้เล่นอยู่ที่ราว 27 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงวัยพีคของนักเตะในการค้าแข้ง ผสมผสานระหว่าง ตัวเก๋า และ ดาวรุ่ง ที่น่าจะเป็นกำลังสำคัญของทีมไปได้ถึงรายการนี้ครั้งหน้า อันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง ของพวกเขา พุ่งทะยานมาอยู่ที่ 21 ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ อันมาจากฟอร์มที่ร้อนแรง จากบอลโลกรอบคัดเลือกที่ผ่านมานั่นเอง ตัวหลักหลายรายอยู่กับทีมลีกรองๆ ทั่วยุโรป และ ค้าแข้งอยู่ในโซนเอเชีย

ตำแหน่งผู้รักษาประตู

ตอนนี้แคนดิเดตมือหนึ่ง ที่นำหน้าตัวเลือกอื่นๆ อยู่พอสมควร ย่อมเป็น อาเมียร์ อาเบดซาเดห์ นายทวารวัย 29 ปี จากโมสร ปอนเฟร์ราดิน่า สโมสรจากลีกรองประเทศสเปน ฝีมือของเขาไม่ถึงขั้นโดดเด่นเป็นตัวท็อป ที่ได้รับการยกย่องเรื่องการเซฟในระดับโลก แต่ถ้าวัดกันในโซนเอเชีย รับรองว่าติด 1 ใน 3 ได้ไม่ยาก

ตำแหน่งกองหลัง

ขอเลือกไปที่แบ็คขวาจอมลุยจากสโมสร ดินาโม ซาเกร็บ ทีมดังแห่งลีกโครเอเชียอย่าง ซาเด็กห์ โมฮาร์รามี่ วัย 26 ปี ที่เรื่องของทักษะฟุตบอลไม่ได้เป็นรองผู้เล่นในยุโรป การอยู่กับทีมระดับหัวแถวได้ ย่อมไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค ต้องมีของอยู่ในระดับหนึ่ง การเติมเกมบุกและการเล่นเกมรับที่สมดุลย์ของเขา คงช่วยอุดช่องโหว้ตรงริมเส้นได้เป็นอย่างดี

ตำแหน่งกองกลาง

ตำแหน่งนี้ขอชี้เป้าไปที่แนวรุกสาระพัดประโยชน์อย่าง อาลิเรซ่า จาฮานบัคห์ จากสโมสร เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม ที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นกองกลางตัวรุก หรือ ถอยต่ำมายืนกลางคู่ ถ่างออกไปยืนริมเส้นก็ได้ จังหวะการเติมเกมและลากลุยของเขา บวกกับการยิงประตูอันหนักแน่น ถือว่าเป็นอาวุธลับประจำทีม ที่ไม่สามารถประมาทได้

ตำแหน่งกองหน้า ทีมชาติอิหร่าน

ชื่อของ ซาดาร์ อัซมูน คงคุ้นชื่อแฟนบอลเป็นอย่างดี อดีตเจ้าของฉายา เมสซี่ อิหร่าน เคยย้ายไปทำผลงานอันน่าประทับใจกับ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทักษะในการเล่นของเขา เทียบชั้นกับผู้เล่นที่ได้รับการฝึกสอนกับสโมสรท็อปๆ ได้สบาย ความพริ้วไหวในการเลี้ยงบอล และ จังหวะการจบสกอร์ที่คมกริบ เป็นจุดขายของเขาตั้งแต่เริ่มมีชื่อ

แม้ว่าผลงานจะดร็อปลงไปไม่น้อย หลังย้ายไปอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แต่สถานะในทีมชาติของเขา ยังคงเป็นกำลังสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้

สตาร์ประจำทีม

นาทีนี้ความหวังสูงสุดในการล่าตาข่าย คงต้องฝากไว้กับ เมห์ดี้ ตาเรมี่ ดาวยิงฟอร์มแรงจากสโมสร เอฟซี ปอร์โต้ ที่ผลงานส่วนตัวของเขา ยิงแตะระดับ 10 ประตูในลีกโปรตุเกสได้สบายๆ แถมยังผ่านเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว

จุดเด่นของศูนย์หน้าตัวเป้ารายนี้ อยู่ที่ความแข็งแกร่งด้านกาภาพ ครองบอล เก็บบอลได้ดี เล่นลูกกลางอากาศได้อันตราย มีความขยันและแพสชั่นแบบล้นเหลือ รวมๆ แล้วฝีเท้าก้าวข้ามระดับเอเชียไปเต็มตัว ในวัย 29 ปี ที่เก็บประสบการณ์ เพาะบ่มมาจนได้ที่ ยังไงทัวรืนาเมนต์นี้ น่าจะเป็นเวทีฉายแสงให้เขา เผื่อว่าฟอร์มจะไปเตะตาทีมใหญ่จากลีกอื่นๆ

เป้าหมาย

การอยู่ร่วมกลุ่ม บี ที่มีคู่แข่งอย่าง อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา และ เวลส์ เป็นงานที่เบากว่าครั้งก่อน ที่ต้องเผชิญหน้ากับ สเปน และ โปรตุเกส หากนำผลงานครั้งก่อนมาเป็นเกณฑ์ การลุ้นเก็บ 4 แต้มเท่าเดิม อาจไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินฝัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน หากมีแต้มในเกมเจอกับ ลุงแซม และ มังกรแดง มีลุ้นเบียดเข้าที่สอง ไปเล่นในรอบ น็อค เอาท์ ได้อยู่ ซึ่งถ้าพลิกโผรอดเข้าไปได้จริง ต่อให้ตกรอบในขั้นต่อไปทันที สามารถมองได้ว่าการผ่าน รอบแบ่งกลุ่ม นับเป็นความสำเร็จที่ก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลา้วยประการทั้งปวง