ทีมชาติญี่ปุ่น ทีมระดับท็อปของทวีปเอเชีย ขาประจำที่ผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก ยังคงไว้ลายเหมือนเช่นเคย แม้ว่าพวกเขาจะออกสตาร์ตรอบคัดเลือก ได้อย่างน่าผิดหวัง แต่พอเครื่องร้อนได้ที่ จำเป็นต้องเร่งเก็บแต้มจริงๆ จังๆ ก็สามารถสั่งได้ดั่งใจ พลิกสถานการณ์มาจบในตำแหน่งรองแชมป์กลุ่ม

หากวัดกันเรื่องของความยากง่ายแล้ว การถูกจัดมาอยู่ในกลุ่ม บี แทบจะเป็นงานยากกว่ากลุ่ม เอ อยู่พอสมควร เพราะพวกเขาต้องเจอกับคู่แข่งเขี้ยวๆ อย่าง ซาอุดิอาระเบีย, ออสเตรเลีย และ เวียดนาม ที่ล้วนแล้วแต่มีเกมรับที่แข็งแกร่งทั้งหมด ทำเอาเกมรุกของพวกเขามีช็อตไปบ้างในช่วงแรก แต่ด้วยประสบการณ์ก็เอาตัวรอดมาได้ในช่วงโค้งสุดท้าย

ย้อนกลับไปในศึกฟุตบอลโลกครั้งก่อน แดนอาทิตย์อุทัย ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายเช่นกัน ด้วยการอยู่กรุ๊ป เอช ร่วมกับคู่แข่งอย่าง โคลอมเบีย, เซเนกัล และ โปแลนด์ ซึ่งอาจดูไม่แข็งมากสำหรับชาติดังๆ แต่สำหรับพวกเขาไม่ใช่งานง่ายเลยที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป

อย่างไรก็ตามขุนพลเลือดซามูไร เก็บไปได้ถึง 4 คะแนน ผ่านเข้ารอบต่อไปได้แบบหวุดหวิด ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ก่อนจะไปพลาดท่าพ่ายให้กับ เบลเยี่ยม แบบสุดมัน 2-3 โดยผู้จัดการทีมของพวกเขาชุดนั้น เป็นคนที่แฟนบอลชาวไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือ อากิระ นิชิโนะ ที่เคยมารับงานคุมทัพ ช้างศึก เมื่อไม่นานมานี้

การกลับไปเล่นบนเวทีใหญ่ที่สุดอีกครั้ง ทีมงานและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ในการบริหารทีมชาติญี่ปุ่น คงต้องพยายามเข็นทีมให้ไปไกลได้มากที่สุด เพราะนี่เป็นกีฬาที่ชาติของพวกเขาคลั่งไคล้เอามากๆ ตั้งความหวังเอาไว้สูงไม่น้อย แล้วยิ่งมีมาตรฐานเดิมที่ตั้งเอาไว้แบบสูงลิบลิ่ว คงไม่ใช่เรื่องที่จะเทียบเคียงได้ง่ายๆ แน่นอน มาดูกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ กุนซือ, นักเตะ และ เป้าหมายต่างๆ ของพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง?

กุนซือ ทีมชาติญี่ปุ่น

สมาคมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น ยังคงเลือกใช้บุคลากรภายในประเทศ ที่เป็นคนบ้านเดียวกันเหมือนเคย ซึ่งคราวนี้หวยมาออกที่ ฮาจิเมะ โมริยาสุ เทรนเนอร์วัย 53 ปี ที่มีประสบการณ์คุมทีมมาอย่างยาวนาน คุ้นเคยกับวงการฟุตบอลแดนอาทิตย์อุทัยเป็นอย่างดี

โมริยาสุ เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน แต่เส้นทางการค้าแข้งของเขา ไม่ได้ก้าวไปไกลเหมือนสตาร์รายอื่นๆ ที่ได้ออกไปค้าแข้งนอกประเทศ เขาวนเวียนเล่นให้กับทีมชื่อดังในศึก เจ ลีก ยกตัวอย่างเช่น ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า และ เวกัลตะ เซ็นได ที่ยังไม่ได้มีการยุบทีมมาจนถึงปัจจุบัน

หลังจากแขวนสตั๊ดไปได้เพียงปีเดียว โมริยาสุ ก็เลือกทำงานด้านการคุมทีมต่อทันทีในปี 2004 ด้วยตำแหน่งงานผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า แล้วอยู่กับทีมยาวนานถึง 6 ปีเลยทีเดียว ก่อนจะแยกทางกันไปในปี 2010 เพื่อไปรับงานใหม่ตำแหน่งเดิมกับ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ เป็นเวลาราวสองปี

เมื่อเก็บประสบการณ์ได้ที่ ซานเฟรซเซ่ เลือกที่จะดึงตัว โมริยาสุ กลับมารับงานอีกครั้ง แต่คราวนี้ให้คุมทีมแบบเต็มตัว ไม่ได้รับงานเป็นผู้ช่วยอีกต่อไป แล้วผลงานของเขาก็ค่อนข้างเข้าตา อยู่กับทีมยาวนานถึง 5 ปี ทำทีมจนมีสไตล์การเล่นที่โดดเด่น ก่อนจะถูกทางสมาคมดึงตัวไปรับงานคุมทีมชาติมาจนถึงปัจจุบัน ที่เหมารวมดูทุกชุดไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหรือชุดใหญ่

ระบบการเล่นที่เขาชื่นชอบ คือ 4-2-3-1 ที่เป็นแผนยอดฮิตในวงการฟุตบอลตอนนี้ หากต้องการเปลี่ยนเป็นการเน้นเกมบุกมากขึ้น ก็จะปรับเป็น 4-3-3 ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของคู่แข่งที่ต้องเผชิญหน้า แต่สิ่งสำคัญที่เน้นสุดๆ คือ การครองเกมในแดนกลางให้เหนือกว่า

นักเตะ ทีมชาติญี่ปุ่น

อายุเฉลี่ยของผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นชุดนี้ตกอยู่ที่ 25.4 ปีเท่านั้น นับว่ากำลังอยู่ในช่วงวัยที่สภาพร่างกายกำลังเข้าที่เข้าทาง ขุมกำลังมีทั้งตัวที่ยังเล่นอยู่ในประเทศกับทีมชั้นนำในลีกบ้านเกิดด รวมไปถึงสตาร์ฝีเท้าฉกาจ ที่ออกไปเสี่ยงดวงค้าแข้งกับทีมในยุโรป ตั้งแต่ระดับกลางไปถึงหัวแถวของทวีป ดด้านอันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง ของพวกเขาในปัจจุบันอยู่ที่ 24 ขึ้นๆ ลงๆ ตามผลงาน แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่แย่นัก

ตำแหน่งผู้รักษาประตู

เป็นตำแหน่งที่ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของทีมมาทุกยุคทุกสมัย เพราะยังไม่มีใครที่ฝีมือดูเข้าตาแบบจริงๆ จังๆ แล้วมาถึงในตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่ดดูทรงแล้วเทรนเนอร์น่าจะไว้ใจ โคเซย์ ทานิ จากสโมสร โชนัน เบลมาเร่ และ เคย์สุเกะ โอซาโกะ จากสโมสร ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า มากที่สุด ซึ่งหากมองกันที่วัยวุฒิและประสบการณ์แล้ว โอซาโกะ มีแต้มต่อยู่เล็กน้อย คงต้องวัดกันไปก่อนทัวร์นาเเมนต์จะเริ่มว่าสุดท้ายแล้ว มือหนึ่งจะเป็นใครกันแน่ เพราะระดับฝีมืออยู่แค่เกณฑ์ใช้ได้ไม่ต่างกัน

ตำแหน่งกองหลัง

ดาวเตะที่ดูมีประสบการณ์ แล้วน่าจะไว้ใจได้มากที่สุดชั่วโมงนี้ในแนวรับ คงหนีไม่พ้น ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ จากสโมสร อาร์เซน่อล ที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ ไม่ว่าจะเป็นฟูลแบ็คทั้งสองฝั่ง หรือ ปราการหลังตัวกลาง สิ่งเดียวที่น่ากังวลสำหรับดาวเตะรายนี้ คือ เรื่องของสภาพร่างกาย ที่มักจะเจ็บออดๆ แอดๆ อยู่เสมอ แต่ถ้าในยามที่เขาฟิตเต็มถัง เชื่อใจได้เลยว่าพึ่งได้มากแน่ๆ

ตำแหน่งกองกลาง ทีมชาติญี่ปุ่น

ตัวเลือกในแผงกองกลาง ที่ดูแล้วผลงานกำลังไปได้สวยที่สุด นาทีนี้ต้องชี้เป้าไปที่ เคียวโกะ ฟูรูฮาชิ แนวรุกฟอร์มร้อนจากสโมสร เซลติก ในศึก สก็อตติช พรีเมียร์ลีก แนวรุกรายนี้สามารถเล่นได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวริมเส้น เพลย์เมคเกอร์ หรือ ดันขึ้นไปเป็นกองหน้า มีจุดขายอยู่ที่การยิงประตูที่เฉียบคม เซ้นส์ฟุตบอลที่เหนือชั้น ฝีเท้าของเขากำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในวัย 27 ปี ที่กำลังเข้าช่วงพีคของการค้าแข้ง เวทีนี้น่าจะเป็นการโชว์ของ ให้เขาได้ปูทางย้ายไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่าเดิม

ตำแหน่งกองหน้า

ถ้าจำเป็นต้องหาที่ตัวความหวังสักราย มีดดีกรีฝีเท้าที่เเชื่อถือได้ว่ามีของแน่ๆ ชื่อของ ทาคุมิ มินามิโนะ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในสาระบบทีมชาติตำแหน่งนี้ แม้ว่าเขาจะเสียเวลาและความมั่นใจไปสักหน่อย ในการย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล แต่ซีซั่นนี้กับการเริ่มต้นใหม่ที่ โมนาโก น่าจะทำให้เขาได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น เรียกฟอร์มเก่งๆ กลับมาได้ แล้วคงช่วยทีมได้มาก จากการอาศัยประสบการณ์ค้าแข้งในยุโรป

สตาร์ประจำทีม

ชื่อของ ไดจิ คามาดะ อาจไม่คุ้นหูแฟนบอลมากเท่าที่ควร แต่ถ้าเป็นคนที่ติดตามศึก บุนเดสลีก้า เยอรมัน เป็นประจำ คงรู้ดีว่าดาวเตะรายนี้ คือ อาวุธสำคัญในเกมบุกของ ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต เจ้าของแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ซีซั่นก่อน ผลงานของ คามาดะ ในปีนี้ยังคงทำได้ดีไม่ต่างจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เกม หรือ ยิงประตู หากปรับบทบาทของเขาให้เข้ากับแทคติกส์ของทีมได้ รับรองเลยว่า ศักยภาพของเขาจะช่วยทีมได้เป็นอย่างดี

เป้าหมาย

การกลับมาเล่นบนเวทีใหญ่ที่สุดในกวงการลูกหนังของ ญี่ปุ่น ดด้วยการมีเกณฑ์มาตรฐานเดิมที่สูงลิบลิ่ว ย่อมสร้างความกดดันให้พวกเขาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นตัวนักเตะเอง หรือ ทีมงานสตาฟฟ์ ที่รับหน้าที่ต่างๆ ภายในทีมชุดนี้

คู่แข่งร่วมกลุ่มอย่าง สเปน, เยอรมัน และ คอสตาริกา เปรียบมวยแล้ว อาจมีลุ้นเก็บแต้มได้เพียงนัดเดียวแบบเน้นๆ เพราะการต้องดวลกับ อินทรีเหล็ก และ กระทิงดุ แทบจะหวังแต้มติดมือได้ยากเหลือเกิน เป้าแรกที่พวกเขาควรมอง หนีไม่พ้นการผ่านรอบแบ่งกลุ่ม

อย่างไรก็ตามมองกันตามจริงแล้ว การมีสามแต้มตุนใส่กระเป๋าแล้วตกรอบไป แม้จะไม่ใช่ผลงานที่น่าพอใจมากนัก แต่ยังพอให้อภัยกันได้ เนื่องจากเจองานหินจริงๆ ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว บทสรุปของบอลโลกครั้งนี้พวกเขาคงทำได้เต็มที่แค่จอดในรอบแรก ด้วยการจบอันดับสามของกลุ่มเท่านั้น แล้วกลับมาสร้างทีมในตำแหน่งที่ขาดต่อไป

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง