ทีมชาติโมร็อคโก เป็นหนึ่งชาติตัวแทนจากทวีปแอริกาใต้ ที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้แบบไม่ยากเย็นนัก ครองตำแหน่งแชมป์ในกลุ่ม แอล ก่อนมาเล่นนัดชี้ชะตากับ ทีมชาติคองโก แล้วเอาชนะไปได้ด้วยผลรวมแบบขาดลอย 4-1 ถือว่ามีดวงช่วยส่นหนึ่ง เพราะไม่ต้องไปชนกับทีมแข็งๆ ในโซนเดียวกัน
พวกเขาห่างหายจากการไปเล่นรอบสุดท้ายราว 20 ปี ก่อนจะโผล่ไปใน เวิลด์ คัพ ครั้งก่อน แต่ทำผลงานออกมาไม่น่าจดจำเท่าไหร่นัก อยู่ร่วมกลุ่มกับ สเปน, อิหร่าน และ โปรตุเกส แล้วสามารถเก็บคะแนนไปได้แต้มเดียว ตกรอบในอันดับบ๊วยของกลุ่ม บี ไปแบบไม่มีอะไรให้ลุ้น
ส่วนรายการชิงแชมป์ทวีปที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน พวกเขาก็ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการพ่ายแบบหวุดหวิดให้กับรองแชมป์อย่าง อียิปต์ ทั้งที่ศักยภาพของทีม ควรจะแบกตัวเองผ่านเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศได้เป็นอย่างน้อย แต่ดันไปชนกับตอเข้าอย่างจัง
การมาอยู่ร่วมกลุ่ม เอฟ กับ เบลเยี่ยม, แคนาดา และ โครเอเชีย ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่งานง่ายของพวกเขาเท่าไหร่นัก หากหวังถึงการผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ เพราะดวงแตกไปต้องดวลกับของแข็ง ที่ได้รองแชมป์ และ อันดับที่สามจากบอลโลกครั้งก่อน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาน่าจะมีข้อได้เปรียบ คือ ความคุ้นเคยกับสภาพอากาศที่ร้อน เล่นในอุณหภูมิที่สูลได้แบบไร้กังวล เพราะแทบไม่ต่างจากถิ่นฐานบ้านเกิดของพวกเขาเท่าไหร่นัก น่าจะส่งผลให้เหล่านักเตะรีดเร้นศักยภาพออกมาได้แบบเต็มที่
เชื่อเหลือเกินว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำทีมชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นสมาคมฟุตบอล, สตาฟฟ์ และ ผู้เล่นภายในทีม หวังที่จะทำผลงานออกมากู้หน้าจากครั้งก่อน ให้แฟนบอลได้เสพย์สุขกับเขาบ้าง ซึ่งคงมีการเตรียมความพร้อมกันไปแล้วหลายส่วน มาดูกันเลยว่า ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการอัพเดตต่างๆ จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง?
กุนซือ ทีมชาติโมร็อคโก
สมาคมฟุตบอลโมร็อคโก เพิ่งจะมีการเปลี่ยนตัวกุนซือเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากมองว่าผลงานของเทรนเนอร์คนเก่า ไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ตั้งเป้าเอาไว้ โดยเฉพาในศึกชิงแชมป์ทวีปที่ผ่านมา ล่าสุดดึงตัว วาลิด เรกรากี กุนซือหนุ่มวัยแค่ 46 ปี มารับหน้าที่กุมบังเหียน เพิ่งจะแต่งตั้งหมาดๆ ช่วงเดือนสิงหาคมนี้เอง
เรกรากี เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน ใช้เวลาเกือบทั้งหมดของชีวิต ค้าแข้งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ผ่านการเล่นให้กับทีมอย่าง อฌักซิโอ, ตูลูส และ ดิฌง ซึ่งถือว่าเป็นสโมสรเล็กๆ ไม่ได้มีลุ้นแชมป์เหมือนทีมใหญ่อื่นๆ ในแดนน้ำหอม
หลังจากแขวนสตั๊ดไปในปี 2009 เรกรากี เก็บประสบการณ์ด้านการฝึกสอนอยู่ราวสามปี ก่อนจะถูกชาติโมร็อคโก ติดต่อให้ไปรับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2012 แต่ทำงานอยู่ได้แค่ราวปีเศษ ก็ต้องแยกทางกันไปตามระเบียบ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในระบบการบริหาร
ต่อมาในปี 2014 เขาได้รับงานคุมทีมแบบเต็มตัวครั้งแรกกับสโมสร ฟุส ราบัต แล้วทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวาและมีมาตรฐาน พัฒนาทีมไปตามสเต็ปแบบต่อเนื่อง ส่งผลให้เขาได้อยู่กับทีมนานถึง 5 ปีครึ่งเลยทีเดียว ก่อนจะถูกสโมสร อัล ดูอาฮิล จอมทุ่มจากลีกกาตาร์ ติดต่อไปรับงานคุมทีม
อย่างไรก็ตาม เรกรากี กอบโกยเงินได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อผลงานไม่โดดเด่นตามที่บอร์ดบริหารตั้งความคาดหวังไว้ ทำให้เขาแยกทางกับทีมหลังทำงานไปได้แค่ราว 9 เดือน แล้วก็ว่างงานยาวอยู่เกือบหนึ่งปีเต็ม
เดือนสิงหาคมปี 2021 เรกรากรี กลับมารับตำแหน่งผู้จัดการทีมอีกครั้งกับสโโมสร วีดาด เอซี พาทีมทำผลงานได้อย่างน่าประทับในในลีกประเทศบ้านเกิด จนเมื่อตำแหน่งเฮดโค้ชของทีมชาติชุดใหญ่ว่างลง เขาก็ได้รับการติดต่อให้มาทำทีมลุยบอลดลกช่วงปลายปีนี้
ระบบการเล่นที่เขาชื่นชอบ คือ 4-2-3-1 แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนมาเล่นกองหลังสามคนได้เช่นกัน หากเกมไหนต้องการความเหนียวแน่นในเกมรับเป็นพิเศษ นับจนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ลงคุมทีมอย่างเป็นทางการสักนัดเดียว แฟนบอลคงต้องรอลุ้นกันว่า ทรงบอลของโค้ชใหม่จะเป็นแบบไหนกันแน่ เมื่อนำผู้เล่นที่มีอยู่ไปจัดวางให้ลงตัว
นักเตะ ทีมชาติโมร็อคโก
อายุเฉลี่ยของนักเตะทีมชาติโมร็อคโกชุดนี้ อยู่ที่ราว 27.1 ปี มีผู้เล่นฝีเท้าดีหลายราย ที่ออกไปค้าแข้งอยู่กับทีมในระดับท็อปของห้าลีกใหญ่ในยุโรป กระจายกันไปทั่วทั้งตำแหน่งกองหลัง, กองกลาง และ กองหน้า อันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง ของพวกเขารั้งอยู่ที่ 22 ยังไม่ตกลงจากเดิมเท่าไหร่ แม้ว่าผลงานช่วงหลังๆ จะฟอร์มไม่ค่อยเข้าตาก็ตาม
ตำแหน่งผู้รักษาประตู
มือหนึ่งของทีมที่คงหาตัวเทียบด้านฝีมือ และ ดีกรี การค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำได้อยาก คงหนีไม่พ้น โบโน่ ผู้รักษาประตูจากสโมสร เซบีย่า นายทวารวัย 31 ปี ยึดตัวจริงของทีมได้แบบยาวๆ มีผลงานที่คงเส้นคงวา แต่ไม่ได้มีจุดเด่นอยู่ที่ลูกเซฟแบบมหัศจรรย์ แค่ไว้วางใจง่ายๆ ว่าจะไม่พลาดช็อตเบสิคเท่านั้น
ตำแหน่งกองหลัง
นักเตะที่ไว้ใจได้มากที่สุด ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ แรนส์ ในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ปีก่อน ด้วยการยืนเป้นปราการหลังตัวกลาง คอยเก็บกินหมดไม่ว่าจะเป็นลูกโด่งหรือลูกภาคพื้น ก็คือ นาเยฟ อาเกิร์ด ดาวเตะวัย 26 ปี ที่เพิ่งย้ายไปร่วมทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หมาดๆ น่าเสียดายที่ตัวเขาดันมาบาดเจ็บก่อนซีซั่นจะเปิดไม่นาน เลยยังไม่มีแฟนบอลได้เห็นผลงานว่าดีเท่าเก่าหรือไม่?
ตำแหน่งกองกลาง ทีมชาติโมร็อคโก
หากทีมต้องการผู้เล่นที่มีประสบการณ์ ถนัดเรื่องการเชื่อมบอลจากแดนหลังขึ้นหน้า กำหนดจังหวะช้า-เร็ว ได้อย่างยอดเยี่ยม หน้าที่นี้คงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่า โซฟียาน อัมราบัต มิดฟิลด์ไดนาโมจากสโมสร ฟิออเรนติน่า ที่มาตรฐานการเล่นไม่ตกมาแล้วหลายปี มั่นใจได้เลยว่า ทัวร์นาเมนต์นี้ ทีมต้องพึ่งเขามากๆ ในการชะลอเกมคู่แข่ง
ตำแหน่งกองหน้า
ตัวเลือกที่มีอยู่ในมือตอนนี้ ยุสเซฟ เอ็นเนซีรี่ ดาวยิงวัย 25 ปี จากสโมสร เซบีย่า ดูเหมือนจะเป็นผู้เล่นที่ฝากความหวังเอาไว้ได้มากที่สุด เพราะมีองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยมเรื่องของ สปีดความเร็ว, การหาตำแหน่งที่ว่าง และ สัญชาติญาณการเข้าหาบอลที่รวดเร็ว แถมจังหวะจบสกอร์ก็ถือว่าคมใช้ได้ เหลือแค่เรียกความมั่นใจกลับมาให้เข้าที่เข้าทาง เหมือนในช่วงที่ตกเป็นข่าวว่ามียักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรป ให้ความสนใจคว้าตัวไปร่วมทีมเท่านั้น
สตาร์ประจำทีม
ถ้ามองจากเรื่องของชื่อเสียง และ ดีกรีฝีเท้า อัชราฟ ฮาคิมี่ แบ็คขวาจากสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง คงจะนำมาแบบไร้คู่แข่ง สไตล์การเล่นของเขามีความโดดเด่นชัดเจน เรื่องการเติมเกมบุกที่เมามันเร้าใจ บวกกับความเร็วที่จัดจ้านยามไล่กวดคู่แข่งในจังหวะป้องกัน มีทีเด็ดในการสอดขึ้นไปยิงประตูสำคัญๆ ได้บ่อยครั้ง ปัจจุบันเขาคือหนึ่งในตัวท็อปตำแหน่งนี้แบบไม่ต้องสงสัย
เป้าหมาย

ความหวังในการหลุดเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายของ โมร็อคโก ที่ต้องมาอยู่ร่วมกลุ่ม เอฟ กับ โครเอเชีย, เบลเยี่ยม และ แคนาดา เต็มที่คงตั้งเป้าห่างๆ ในการผ่านเข้ารอบเป็นที่สอง ซึ่งต้องลุ้นกันหนักเพราะคู่ต่อสู้ต่างเป็นของแข็งทั้งนั้น
นัดที่ต้องพยายามเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อต่ออายุการผ่านเข้ารอบ คือ การเจอกับ แคนาดา แต่ใช่ว่าจะเป็นหมูให้เชือด เผลอๆ เนื่องจากศักยภาพของสองทีมต่างสูสีคู่คี่สุดๆ อย่างน้อยต้องทำให้ดีขึ้นกว่าครั้งก่อน ที่เก็บไปได้เพียงแต้มเดียวจากสามเกม
อย่างไรก็ตามหากมองกันตามจริงแล้ว เปอร์เซ็นต์ทะลุเข้าไปเล่นรอบ น็อค เอาท์ ของพวกเขานั้นน้อยมาก แทบจะไม่มีหวังเลยทีเดียว เพราะเกมรุกยังเป็นจุดอ่อนที่แก้ไม่ตก ทำประตูได้น้อยในจังหวะชี้เป็นชี้ตาย ท้ายที่สุดแล้วคงไม่พ้นต้องดินรนหนีบ๊วยเหมือนเคย แล้วคงตกรอบไปแบบไม่มีอะไรให้จดจำมากนัก
เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง