ทีมชาติแคเมอรูน ตัวแทนจากทวีปแอฟริกา ห่างหายจากเวทีบอลโลก รอบสุดท้าย ไปนานพอสมควรเลยทีเดียว นับตั้งแต่ปี 2014 เพราะอยู่ในช่วงที่ต้องผลัดใบ ถ่ายเลือดเก่าออกจากทีม ปั้นสายเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งกว่าจะตั้งตัวได้ ใช้เวลาเกินกว่า 5 ปี ถึงเข้าที่เข้าทางแบบที่เห็น

ผลงานของทัพ หมอผี รอบคัดเลือก คว้าแชมป์กลุ่ม ดี ด้วยการเก็บชัยไปได้ทั้งหมด 5 จาก 6 เกม พลาดท่าพ่ายไปเกมเดียว ยิงประตูได้ถึง 12 ลูก เสียไปแค่ 3 ลูก นับว่าเข้าฝักแบบสุดๆ ต่อเนื่องด้วยการไปชนกับ แอลจีเรีย อีกหนึ่งทีมแกร่งประจำทวีป แต่หักด่านผ่านมาได้ ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-1 ที่ยื้อกันไปถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ

หากย้อนกลับไปในปี 2014 ที่พวกเขา ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาได้ ไม่มีความทรงจำที่ประทับใจเลยแม้แต่น้อย เพราะตกรอบแรกไปด้วยการจมบ๊วย เก็บไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียว ยิงประตูได้เพียง 1 ลูก กลับบ้านไปแบบน่าอับอายสุดๆ

แต่นั้นเป็นเวทีส่งท้ายของผู้เล่นตัวเก๋าหลายราย ที่เลือกอำลาทีมชาติไป เมื่อถึงเวลาอันพอเหมาะพอเจาะ ปล่อยให้นักเตะรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาทดแทน แต่เนื่องด้วยฝีเท้ายังไม่ถึงระดับ เลยไม่สามารถเทียบมาตรฐานเดิมของรุ่นพี่ได้

การกลับมาเล่นในรายการนี้ ซึ่งถูกจัดมาอยู่ในกลุ่ม จี ร่วมกับ บราซิล, สวิตเซอร์แลนด์ และ เซอร์เบีย มองตามเนื้อผ้าแล้ว พวกเขาคือทีมที่ชื่อชั้นอ่อนเชิงที่สุด เผลอๆ ถูกมองว่า เป็นหนึ่งทีมเต็งที่จะตกรอบ แบบไม่มีอะไรให้แฟนบอลได้ลุ้น เนื่องจากคุณภาพของทีมยังน่าห่วง

อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเตรียมทีม ไม่ว่าจะเป็น สตาฟฟ์โค้ช, นักเตะ หรือ สมาคมฟุตบอลของพวกเขา ย่อมต้องงวางแผนมาอย่างรัดกุม เพื่อมาลุยศึกครั้งนี้ ที่พวกเขามีข้อได้เปรียบ เรื่องความชินชากับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว มาดูไปพร้อมๆ กันเลยว่า ข้อมูลสำคัญต่างๆ ในเรื่องของ กุนซือ, นักเตะ และ เป้าหมายของพวกเขา จะเป็นอย่างไรกันบ้าง?

กุนซือ ทีมชาติแคเมอรูน

การมาลุยศึกบอลโลก 2022 สมาคมฟุตบอลทีมชาติแคเมอรูน มอบหมายให้ ริโกแบร์ ซง อดีตนักเตะชื่อดังของทีมชาติยุคก่อน เข้ามารับหน้าที่ในการกุมบังเหียนน้องๆ เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งหมาดๆ หลังโค้ชเก่า ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ ในการลุยศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง

ย้อนกลับไปในสมัยที่ยังเป็นนักเตะอาชีพ ซง เคยผ่านการค้าแข้ง กับสโมสรดังๆ ในยุโรปมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ กาลาตาซาราย เป็นต้น ตำแหน่งของเขา คือ แนวรับ ที่เล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลาง และ มิดฟิลด์ตัวตัดเกม

หลังจากแขวนสตั๊ดไปในปี 2010 ซง ใช้เวลาศึกษางานด้านการคุมทีม แล้วได้รับการติดต่อจาก แคเมอรูน ให้มานั่งแท่นผู้ช่วยผู้จัดการทีมในปี 2012 แล้วอยู่ในตำแหน่งนั้นนานถึง 3 ปี ก่อนจะอำลาไปคุมทีมชาติ ชาด ประเทศเล็กๆ ในแถบแอฟริกากลาง แต่อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเดือนเดียว

ต่อมา แคเมอรูน ก็ตามตัวกลับมารับหน้าที่ผู้ช่วยเหมือนเดิม ก่อนจะรับบทบาทหัวเรือใหญ่ชั่วคราว คุมทีมชาติชุดใหญ่เป็นเวลา 1 เดือนแบบรักษาการณ์ ถูกปรับลงไปดูแลทีมชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี แล้วพอโค้ชเก่าคนล่าสุด ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ เลยถูกดันขึ้นมาแทนอย่างที่เห็น

อย่างไรก็ตาม ซง ไม่เคยผ่านงานการคุมทีมระดับสโมสรมาก่อน ประสบการณ์ ความเขี้ยว ความรู้เรื่องแทคติกส์ ย่อมเป็นหนึ่งรายบนทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งค่อนข้างน่าเป็นห่วงเอามากๆ

ระบบการเล่นที่ ซง ชื่นชอบใช้งาน และ เหมาะกับผู้เล่นที่มีอยู่ในมือ คือ 4-4-2 อันเป็นแผนยอดนิยม ในสมัยที่เขายังค้าแข้งอยู่ มีข้อดีเรื่องของกองหน้าตัวเป้าสองคน แต่ต้องไว้ใจกับมิดฟิลด์ตัวกลางเอามากๆ เพราะต้องรับบทบาททั้ง รุก และ รับ หากคุณภาพไม่ถึงจริง จะกลายเป็นจุดบอดไปในทันที ส่วนเกมรุกก็หวังอาศัยทีเด็ด จากความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นบางราย

นักเตะ ทีมชาติแคเมอรูน

อายุเฉลี่ยของผู้เล่นทีมชาติแคเมอรูนชุดนี้ อยู่ที่ราว 25.9 ปี ไม่มากไม่น้อย ผสมผสานระหว่างตัวเก๋า กับ ดาวรุ่ง ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกในอนาคต กว่าครึ่งค้าแข้งอยู่ในทวีปยุโรป มีทั้งอยู่กับทีมชั้นนำ และ ทีมเล็กๆ ระดับท้ายตาราง คละเคล้ากันไปตามระดับฝีเท้า อันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้งของพวกเขา รั้งอยู่ที่ 38 ของโลก วนเวียนขึ้นๆ ลงๆ ขึ้นอยู่กับผลงานในช่วงนั้นๆ

ตำแหน่งผู้รักษาประตู

ตัวเลือกนายทวารมือหนึ่งของทีมชาติ คงไม่มีใครราศีดีไปกว่า อังเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตูจากสโมสร อินเตอร์ มิลาน ที่รอคิวขึ้นเป็นมือหนึ่งของสโมสรในไม่ช้า เขาผ่านการเล่นบนเวทีระดับสูงมามากมาย รวมไปถึงบอลชิงแชมป์ยุโรประดับสโมสร เชื่อว่าประสบการณ์ที่ผ่านมา จะถูกนำมาช่วยทีมได้มากทีเดียว

ตำแหน่งกองหลัง – ทีมชาติแคเมอรูน

หากมองหาผู้นำในแนวรับ ฌ็อง ชาร์ลส คาเตลเล็ตโต้ เซนเตอร์แบ็คจากสโมสร น็องต์ จากศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส คงเป็นคนที่ไว้ใจได้มากที่สุด ด้วยวัย 27 ปี กำลังเข้าสู่ช่วงพีคของการค้าแข้ง ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องเป็นตัวหลักให้กับสโมสรต้นสังกัด เล่นอยู่ในลีกที่มีความเข้มข้นไม่ธรรมดา นับว่าฝีเท้าของเขาคงพอจะต่อกรกับ แนวรุกระดับโลกได้อยู่บ้าง

ตำแหน่งกองกลาง

หัวใจในแผงกองกลาง ที่ไม่มีทางขาดไปได้เลยของทีมชุดนี้ คือ อ็องเดรย์ อ็องกิสซ่า มิดฟิลด์ไดนาโม จากสโมสร นาโปลี ที่เล่นได้อย่างโดดเด่น มีบทบาททั้งเกมรุกและเกมรับ ความมุ่งมั่น ความทุ่มเท แพสชั่นในการเล่นของเขา เมื่อนำมาควบรวมกับคุณภาพฝีเท้า คงพอจะฟัดกับแผงกลางคู่แข่งได้อย่างเมามัน

ตำแหน่งกองหน้า

หากจะตั้งความหวังไว้กับคลื่นลูกใหม่สักคน ชื่อของ ไบรอัน เอ็มบูโม่ แนวรุกสาระพัดประโยชน์ จากสโมสร เบรนท์ฟอร์ด คงเข้าข่ายเบอร์ต้นๆ แน่นอน เพราะช่วงหลังผลงานพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก กล้าเล่น กล้าลุย มีจังหวะการยิงประตูที่เฉียบขาด ด้วยวัยแค่ 23 ปี ยังเหลือเวลาให้เขาพัฒนาตัวเองอีกมาก เผลอๆ การโชว์ฝีเท้าได้ดีในรายการนี้ อาจเป็นบันไดปูทางสำคัญ ให้เขาได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรที่ใหญ่กว่าก็เป็นได้

สตาร์ประจำทีม

ชื่อของ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง กองหน้าตัวสำรองวัย 33 ปี จากสโมสร บาเยิร์น มิวนิค อาจถูกหลายคน มองข้ามเรื่องฝีเท้า แต่เมื่อใดที่เขาได้รับบทบาทโจ๊กเกอร์ ลงมาล่าประตูในช่วงท้ายเกม มักจะทำผลงานได้เข้าตาบ่อยครั้ง จากประสบการณ์ที่อยู่กับทีมใหญ่มานาน เจอกับเกมที่กดดันมาทั้งชีวิต เวทีใหญ่แบบนี้จะขาดนักเตะ ที่เหลี่ยมจัดแบบเขาไปไม่ได้เลย

เป้าหมาย

ความหวังสูงสุดของ แคเมอรูน ในการมาลุยบอลโลกครั้งนี้ หากมองคู่แข่งร่วมกลุ่มแล้ว ยากที่จะหวังถึงการเป็นแชมป์แน่ๆ คงต้องไปแย่งอันดับสองกับ เซอร์เบีย และ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ระดับฝีเท้าของผู้เล่น ไม่ได้ห่างชั้นกันมากนัก อาจอาศัยความแข็งแกร่ง การชินกับสภาพอากาศ เป็นจุดขายได้อยู่ หากเก็บสามแต้มได้จากทีมใดทีมหนึ่ง จากสองทีมนี้ โอกาสของพวกเขาในการเข้ารอบ น็อค เอาท์ ยังคงเปิดกว้าง แค่กลับบ้านไปแบบมีแต้ม ไม่มือเปล่า แบบครั้งก่อน แฟนบอลก็พร้อมให้อภัย ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองมากเกินไป จนกลายเป็นโชว์ฟอร์มไม่ออกเสียเอง

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง