ทีมชาติเดนมาร์ก เป็นตัวแทนจากทวีปยุโรป ที่กำลังทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่กลายเป็นทีม “ม้ามืด” ในศึก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งล่าสุด ที่พวกเขาต้องเจอกับเหตุการณ์ช็อคโลก เกือบต้องเสียเพลย์เมคเกอร์เบอร์หนึ่งของทีมไปด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว แล้วสามารถรวมพลังกันสู้แทนเพื่อน พลิกสถานการณ์ทะลุเข้าไปสู่รอบลึกๆ ได้อย่างน่าชื่นชม

ด้านฟอร์มการเล่นในรอบคัดเลือกทัวร์นาเมนต์นี้ โคนม อยู่ร่วมกลุ่มกับคู่แข่งที่ไม่แข็งมากนัก ในกลุ่ม เอฟ มีเพียงแค่ ออสเตรีย และ สก็อตแลนด์ ที่ดูพอจะมีศักยภาพทีมสู้พวกเขาได้แบบสมน้ำสมเนื้อ แต่พอแข่งไปจริงๆ แล้ว ปรากฏว่าพวกเขาทำแต้มทิ้งแบบขาดลอย ชนะไปทั้งหมด 9 นัด และแพ้ไปเพียงแค่นัดเดียว เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มแบบชิวๆ

ยิ่งไปกว่านั้นความร้อนแรงของพวกเขา ยังต่อยอดไปถึงรายการ ยูฟ่า เนชั่น ลีกส์ ที่นำเป็นแชมป์ลีก เอ กลุ่มที่หนึ่ง ได้อย่างพลิกความคาดหมาย ทั้งที่มีแต่ของแข็งให้ต้องเผชิญหน้า ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส, ออสเตรีย และ โครเอเชีย แต่กลายเป็นว่า พวกเขากวาดชัยไปได้มากถึง 3 นัด และแพ้ไปเพียงแค่นัดเดียว หากไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะไปลุ้นถึงรอบตัดเชือกได้เลย

ย้อนกลับไปใน เวิลด์ คัพ 2018 เดนมาร์ก อยู่ร่วมกลุ่ม ซี กับคู่แข่งอย่าง ฝรั่งเศส, เปรู และ ออสเตรเลีย ซึ่งพวกเขาก็ทำผลงานได้ตามมาตรฐาน ไม่แพ้ใครเลยในรอบแบ่งกลุ่ม คว้าโควต้ารองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างน่าพึงพอใจ แต่การไปชนกับของแข็งอย่าง ตราหมากรุก แล้วกินกันไม่ลง บทสรุปพ่ายการดวลเป้าตกรอบไป คงเป็นอะไรที่ค้างคาใจอย่างมาก

การกลับมาแก้ตัวในปี 2022 ประเทศกาตาร์ พวกเขาคงต้องเจอกับศึกหนักแน่นอน เจอคู่แข่งหน้าเดิมกับครั้งก่อนถึงสองชาติ แล้วดันมีของแข็งจากแอฟริกา เติมเข้ามาอีกชาติให้ลำบากใจ แถมต้องลงเล่นในสภาพอากาศที่ร้อน อนัเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คุ้นเคย ย่อมต้องส่งผลกระทบไม่มากก็น้อยให้ขุนพลในทีมแน่ๆ

ดังนั้นการเตรียมการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องวางแผนงานก่อนไปลุยของจริงปลายปีอย่างหนัก นักเตะหลายรายต้องเร่งฟอร์ม เพราะยังไม่มีใครที่ได้รับการการันตีว่า ติดทีมไปแน่ๆ โควต้าขุนพลชุดที่เลือกไป ต้องคัดสรรค์อย่างละเอียด ไม่ใช่แค่เรื่องของฝีเท้า แต่ต้องคำนึงถึงสภาพร่างกายด้วยเช่นกัน

บทความนี้พร้อมอัพเดตข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ กุนซือ, ผู้เล่น และ เป้าหมาย ของ แดนโคนม ดด้วยการลงรายละเอียดเจาะลึกลงไป เพื่อเป็นการกระตุ้นกระแสบอลโลกฟีเวอร์ ที่กำลังจะมาถึงไม่นานนี้

กุนซือ ทีมชาติเดนมาร์ก

การกลับมาลุยบอลโลกครั้งนี้ สมาคมฟุตบอลประเทศเดนมาร์ก ยังคงไว้วางใจให้ทาง แคสเปอร์ ยุลมันด์ เทรนเนอร์วัย 50 ปี ที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2020 รับหน้าเสื่อจัดการต่อไป เนื่องจากมองว่ามาตรฐานของทีม กำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่มีการวางแทคติกส์ ที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งกาจอะไรมากมาย แต่เรื่องของการปลุกใจ รับรองเลยว่าไม่ธรรมดา

ยุลมันด์ เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพในช่วงยุคปี 90 มาก่อน แต่เล่นแค่อยู่ในบ้านเกิด แถมสังกัดสโมสรระดับล่างๆ ทำให้ไม่มีผลงานที่น่าจดจำ แต่หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 1998 เขาก็เดินเส้นทางสายโค้ชทันที แล้วทีมที่เสนองานให้อย่าง ลิงบี้ ก็โปรไฟล์ไม่ธรรมดา อยู่ในระดับลีกสูงสุดแดนโคนม ซึ่งบทบาทแรกของเขา คือ ผู้จัดการทีมเยาวชน

เขาพยายามมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ไต่เต้าขึ้นไปทีละขั้น จนได้รับหน้าที่ โค้ชชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี, ผู้ช่วยผู้จัดการทีม และในปี 2006 ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว แต่ก็อยู่ในตำแหน่งดังกล่าวได้เพียงสองปี ก็ต้องแยกทางกันไปตามวิถีฟุตบอล

งานต่อไปของเขาแบบต่อเนื่อง คือ การย้ายไปอยู่กับ นอร์ดเยลลันด์ คู่แข่งร่วมลีกของต้นสังกัดเดิม แต่รับบทบาทเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมไปก่อน แล้วใช้เวลาอย่างยาวนานถึง 3 ปี ถึงได้รับโอกาสให้คุมทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว ในเดือน กรกฎาคม ปี 2011

หลังจากทำผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจ ยุลมันด์ ได้รับข้อเสนอจาก ไมนซ์ 05 ทีมในศึก บุนเดสลีก้า เยอรมัน ในปี 2014 ให้ไปรับตำแหน่งผู้จัดการทีม ถือว่าเป็นการออกนอกประเทศครั้งแรก แต่ปรากฏว่า พาทีมทำผลงานได้ต่ำกว่าเป้าหมาย บอร์ดบริหารเลยเชือดทิ้ง ทั้งที่อยู่กับทีมได้ไม่ถึงปี

ยุลมันด์ พักงานไปราวปีเศษ ก่อนจะกลับมาซบอกทีมเก่าอย่าง นอร์ดเยลลันด์ ในปี 2016 คุมทีมอยู่เกือบ 3 ปี ผลงานอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ได้ แต่ในปี 2019 เมื่อมีการพูดคุยกับทีมบริหารชุดใหม่ เขาก็ถูกดันขึ้นไปให้รับตำแหน่งที่ปรึกษา ทนรับบทบาทที่ไม่ถนัดเกี่ยวกับการปั้นเยาวชนะอยู่ราวแค่ 3 เดือน ก็ตัดสินใจแยกทางออกมา พักงานไปเกือบปีก็ได้มากุมบังเหียนทีมชาติชุดใหญ่

ระบบการเล่นที่ ยุลมันด์ ชอบใช้ในตอนนี้เป็น 3-4-3 เน้นความเหนียวแน่นในเกมรับ ด้วยการใช้เซนเตอร์แบ็คถึงสามคน กองกลางสองคนต้องวิ่งขึ้นลงแบบไม่มีหมด รับหน้าที่ทั้งรุกและรับ วิงแบ็คสองฝั่งต้องมีความเร็ว เติมเกมบุกได้เมามัน แต่เรื่องเกมป้องกันก็ต้องไม่แย่ ไม้ตายคือเรื่องของ ทีมเวิร์ค ที่เล่นกันได้อย่างเข้าขารู้ใจ

นักเตะ ทีมชาติเดนมาร์ก

อายุเฉลี่ยของผู้เล่น เดนมาร์ก ชุดนี้ อยู่ที่ราว 26.8 ปี เป็นการผสมผสานระหว่างตัวเก๋าเล็กน้อน ปนกับนักเตะที่อยู่ช่วงพีคในการค้าแข้ง บวกกับดาวรุ่งที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในอนาคต อันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง ของพวกเขา ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 10 อันเป็นผลมาจากผลงานในช่วงหลัง ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกมอุ่นเครื่อง หรือ รายการสำคัญๆ

ตำแหน่งผู้รักษาประตู

คงไม่มีใครที่จะเบียดแย่งมือหนึ่งกับ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายทวารวัย 35 ปี จากสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ได้แบบสมน้ำสมเนื้อแน่ๆ เพราะไม่เพียงแต่ฝีมือเรื่องการเซฟประตูที่โดดเด่น ประสบการณ์ความเก๋าก็กินขาด ภาวะความเป็นผู้นำของเขา ช่วยให้แนวรับอุ่นใจจากการสั่งการ หากไม่สุดความสามารถจริงๆ เป็นเรื่องยากเอามากๆ ที่จะยิงผ่านมือเขาไปได้

ตำแหน่งกองหลัง

หากมองกันที่ความสาระพัดประโยชน์ บวกกับความสามารถในการเล่นเกมบุก โยอาคิม เมห์เล่ แบ็คจากสโมสร อตาลันต้า กินขาดคู่แข่งรายอื่นๆ หลายช่วงตัว เนื่องจากสามารถยืนประจำการได้สองฝั่ง จะรับบทบาทเป็น ฟูลแบ็ค หรือ วิงแบ็ค ก็ทำได้ดีพอกัน เติมเกมรุกได้เมามันเร้าใจ แอบสอดขึ้นไปยิงประตูได้บ่อยครั้ง เหลือเพียงแค่เรื่องของเกมรับ ที่ยังต้องพิสูจน์กันต่อไป

ตำแหน่งกองกลาง

ฟันเฟืองสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้ ทำหน้าที่ทังรุกและรับอย่างสมดุลย์ พร้อมวิ่งได้ตลอด 90 นาทีแบบไม่มีหมดก็อก ทุกองค์ประกอบนี้มีเพียง ปิแอร์ เอมิล-ฮอยเบิร์ก มิดฟิลด์จอมขยันจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เหมาะสมกับบทบาทนี้มากที่สุด เขามีทั้งแพสชั่นที่เกินร้อย ความทุ่มเทที่ไม่แพ้ใคร เรื่องฝีเท้าอาจถูกประเมินค่าต่ำไปกว่าที่เป็นพอสมควร บอลโลกหนนี้อาจเป็นเวทีที่ทำให้แฟนบอลได้เห็นเขาเฉิดฉายแบบเต็มตัวสักที

ตำแหน่งกองหน้า ทีมชาติเดนมาร์ก

ขอเลือกไปที่ดาวรุ่งในบทบาทหน้ากึ่งปีกอย่าง มิคเกล ดาร์มสการ์ด ที่ผลงานกับสโมสรอย่าง ซามพ์โดเรีย อาจไม่ทำให้เขาโดดเด่นมากนัก เพราะศักยภาพทีมไม่ได้เอื้ออำนวย แต่พอได้ลงสนามบนเวทีระดับชาติทีไร ฟอร์มของเขากลายเป็นปีกตัวพริ้วแสงออกเท้าทุกที จังหวะการหาพื้นที่สับไก การเลื้อยฝ่าแนวรับคู่แข่ง หากเขาอยู่ในช่วงที่มีความมั่นใจ ใครก็หยุดได้ยาก

สตาร์ประจำทีม

ต่อให้สถานการณ์ของ คริสเตียน อีริคเซ่น จะยังถูกแขวนไว้บนเส้นด้าย สืบเนื่องมาจากอาการหัวใจหยุดเต้นในบอลยุโรปครั้งก่อน เพลย์เมคเกอร์จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายนี้ คงได้เดินทางไปกับทีมแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะไปในฐา่นะนักเตะหรือทีมงานสตาฟฟ์ เพราะอย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ แต่ถ้าเขาได้รับอนุญาติให้ลงวาดลวดลายในสนามแล้วละก็ ทีเด็ดทีขาดในการออกบอล คงช่วยทีมให้มีมิติการเล่นเกมบุกที่น่ากลัวขึ้นมาก

เป้าหมาย

เป้าหมายของ เดนมาร์ก ที่ถูกจับมาอยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับ ฝรั่งเศส, ตูนีเซีย และ ออสเตรเลีย พวกเขาคงต้องมองถึงการผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มไปให้ได้ก่อน เผลอๆ อาจไม่หวังถึงแค่รองแชมป์กลุ่ม โลภจะเอาแชมป์กลุ่มได้เลยด้วยซ้ำ หากวัดกันที่ฟอร์มในช่วงหลัง

หากมองกันตามศักยภาพทีมแล้ว โคนม น่าจะเป็นรองแค่ ตราไก่ เพียงทีมเดียว น่าจะวางหมากยื้อเอาหนึ่งแต้มในการเจอกัน แล้วค่อยมาเร่งเอาสามแต้มกับสองเกมที่เหลือกับ ออสเตรเลีย และ ตูนีเซีย ที่ไม่น่าเป็นงานยากเกินความสามารถ นอกจากจะแพ้สภาพอากาศที่ร้อนเกินทน ซึ่งถ้าทำได้ตามที่วางแผนจะเท่ากับมาตรฐานเดิมในครั้งก่อน

ส่วนในรอบ น็อค เอาท์ พวกเขาคงไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากนัก มีสิทธิ์เจอของแข็งได้ทุกทีม ในระดับที่น่ากลัวไม่แพ้กัน เต็มที่บอลโลกหนนี้ ฟันธง จากศักยภาพของ ผู้เล่น และ โค้ช แล้วนั้น การเข้าถึงรอบ 8 ทีม คือ ความสำเร็จสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง