ทีมชาติอุรุกวัย ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022

Home / ทีมชาติอุรุกวัย ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติอุรุกวัย อีกหนึ่งทีมแกร่งจากอเมริกาใต้ ที่เป็นขาประจำในการร่วมรายการนี้ช่วงหลัง จากการที่นักเตะยุคทอง โตขึ้นมาพร้อมๆ กันหลายตำแหน่ง ใช้เวลาถ่ายเลือดอยู่นานหลายปี กว่าจะกลับมาสู่จุดที่ควรจะเป็นได้ ทั้งที่พวกเขาเคยเป็นแชมป์เก่าถึง 2 สมัย

รอบคัดเลือกที่ผ่านมา จอมโหด ทำผลงานได้พอใช้ได้ คว้าอันดับที่ 3 มาครอง ผ่านเข้ารอบสุดท้าย แบบไม่ต้องไปลุ้นเหนื่อยรอบ เพลย์ ออฟ มาเร่งทำคะแนนได้ในช่วงหลัง ตอนออกตัวมีสะดุดไปหลายเกม เก็บชัยชนะไปได้ทั้งหมด 8 นัด เสมอ 4 นัด และแพ้ 6 นัด จนกุนซือเก่าอย่าง ออสการ์ ตาบาเรซ กระเด็นออกจากตำแหน่งไป

ย้อนกลับไปในบอลโลกปี 2018 อุรุกวัย ถูกจัดไปอยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย และ อียิปต์ แล้วทำผลงานได้อย่างสุดยอด กวาดชัยชนะรวดทั้ง 3 นัด แต่โชคร้ายไปชนกับตอเข้าอย่างจัง เนื่องจากต้องดวลกับ ฝรั่งเศส ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แล้วพ่ายตกรอบไปด้วยสกอร์ 0-2 ซึ่งบทสรุป ตราไก่ ไปถึงเป้าหมายแชมป์โลกได้

บอลโลก 2022 ครั้งนี้ พวกเขาต้องมาอยู่ร่วมกลุ่ม เอช เจอกับคู่แข่งอย่าง โปรตุเกส, กาน่า และ เกาหลีใต้ เทียบชื่อชั้นกับครั้งก่อนแล้ว งานนี้พวกเขาต้องเหนื่อยตั้งแต่เริ่ม ลุ้นแค่เบียดเเข้ารอบสองอันดับแรก ไม่ใช่งานที่จะทำได้ง่ายๆ เลย เพราะศักยภาพทีม ไม่ได้เหนือกว่าเพื่อนร่วมกลุ่มมากนัก

เผลอๆ รายการนี้ อาจเป็นทัวร์นาเมนต์สั่งลาของสตาร์ตัวเก๋าหลายคน ที่อยากทิ้งท้ายอาชีพด้วยความสำเร็จระดับชาติ จึงต้องทุ่มเทแบบสุดตัวแน่ๆ ก่อนจะส่งไม้ต่อให้รุ่นน้อง ที่กำลังพัฒนาตัวเองขึ้นมา เพื่อรับไม้ต่อในอนาคตอันใกล้ กลับไปสู่จุดของการถ่ายเลือดใหม่อีกครั้ง

ดังนั้นการเตรียมทีมครั้งนี้ สตาฟฟ์โค้ช, นักเตะ และ สมาคมฟุตบอลของพวกเขา ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างดีที่สุด เพื่อหวังแก้ตัวจากความผิดหวังในครั้งก่อน มาดูไปพร้อมๆ กันเลยว่า ข้อมูลสำคัญต่างๆ ในเรื่องของ กุนซือ, นักเตะ และ เป้าหมายของพวกเขา จะเป็นอย่างไรกันบ้าง?

กุนซือ ทีมชาติอุรุกวัย

สมาคมฟุตบอลอุรุกวัย ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือของทีม เมื่อไม่นานมานี้ ด้วยการแยกทางกับ ออสการ์ ตาบาเรซ เทรนเนอร์จอมเก๋าที่อายุรุ่นปู่ ที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากลูกทีมเอามากๆ แล้วไปดึงตัว ดิเอโก้ อลอนโซ่ ผู้จัดการทีมวัย 47 ปี เข้ามาทำทีมแทน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุค 90 อลอนโซ่ เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน ผ่านการค้าแข้งกับทีมดังๆ ในยุโรปมากมาย อาทิ เช่น บาเลนเซีย, ราซิ่ง, และ มาลาก้า เป็นต้น ก่อนที่ช่วงท้ายจะกลับมาเล่นในแถบอเมริกาใต้กับ กิมนาเซีย และ เปนารอล แล้วแขวนสตั๊ดไปในปี 2011

อลอนโซ่ เริ่มจับงานคุมทีมครั้งแรกกับ เบลล่า วิสต้า สโมสรแรกที่เขาค้าแข้ง แต่ด้วยฝีมือที่โดดเด่น ทำให้เขาอยู่กับทีมได้เพียงแค่ปีเดียว แล้วถูกทาง กัวรานี่ ทีมใหญ่กว่าในอุรุกวัย มาดึงตัวไปทำทีมในปี 2012 แล้วอยู่กับทีมใหม่ได้ไม่กี่เดือน ก็ถูกทาง เปนารอล คว้าตัวไปทำทีมต่อเป็นช่วงสั้นๆ แล้วทีมสุดท้ายในบ้านเกิด ที่เขารับงาน คือ โอลิมเปีย ในปี 2014

หลังจากสั่งสมประสบการณ์มามากมาย อลอนโซ่ เลือกที่จะออกไปรับงานนอกประเทศกับ ปาชูก้า, มอนเตอร์เรย์ และ ไมอามี่ ตั้งแต่ปี 2014-2021 ก่อนจะได้รับการติดต่อให้มาคุม จอมโหด ลุยศึกบอลโลกครั้งนี้ เมื่อทางสมาคมมองว่าฝีมือของเขาดีพอ

ระบบการเล่นที่ อลอนโซ่ ชื่นชอบในการใช้งาน คือ 4-2-3-1 เน้นแผงกองกลางให้แน่น บีบพื้นที่เร็ว ตัดบอลให้ได้ไวที่สุด แล้วอาศัยการโโจมตีแบบฉาบฉวย จากผู้เล่นตัวริมเส้นทั้งสองฝั่ง ที่คอยป้อนบอลสวยๆ ให้กับกองหน้าตัวจบสกอร์

นักเตะ ทีมชาติอุรุกวัย

อายุเฉลี่ยของนักเตะอุรุกวัยชุดนี้ อยู่ที่ราว 26.8 ปี เป็นการเรียกตัวแบบผสมผสาน มีการดึงตัวเก๋าเข้ามาเป็นแกนประคองน้องๆ แล้วมีการดึงสายเลือดใหม่ ที่เป็นดาวรุ่งฟอร์มดีเข้ามามีส่วนร่วมกับทีม ผลงานช่วงหลังกำลังขึ้นหม้อ ส่งผลให้อันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง ของพวกเขาเขยิบขึ้นมาอยู่ที่ 13 ของโลก แล้วอาจจะไต่ขึ้นสูงได้มากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับผลงานในบอลโลกว่า จะดีแค่ไหน?

ตำแหน่งผู้รักษาประตู – ทีมชาติอุรุกวัย

คงไม่มีตัวเลือกไหน เหมาะสมในการยึดมือหนึ่งเท่ากับ เฟร์นานโด มุสเลร่า นายทวารจอมเก๋า วัย 36 ปี จากสโมสร กาลาตาซาราย ที่ยังคงรักษามาตรฐาน ฟอร์มการเล่นเอาไว้ไดด้อย่างยอดเยี่ยม มีจุดเด่นอยู่ที่การยืนตำแหน่ง และประสบการณ์อันล้นเหลือ ผ่านการเล่นบนเวทีระดับสูงมามากมาย รายการนี้น่าจะเป็นการสั่งลาทีมชาติของเขา เพื่อเปิดโอกาสให้รุ่นน้องได้ก้าวขึ้นมาสานต่อความสำเร็จ

ตำแหน่งกองหลัง

ผู้นำในแนวรับคนใหม่ ที่น่าจะสานต่อผลงานกับทีมไปอีกยาวๆ ด้วยฟอร์มการเล่นที่กำลังเข้าฝักสุดๆ คงไม่มีตัวเลือกใดดีไปกว่า โรนัลด์ อเราโฆ่ กองหลังสาระพัดประโยชน์ จากสโมสร บาร์เซโลน่า ที่เล่นได้ทั้งเซนเตอร์แบ็ค และ แบ็คขวา จุดเด่นของเขา คือ รูปร่างที่สูงใหญ่ แต่ความเร็วไม่ได้เป็นรองใคร สามารถวิ่งไล่กวดแนวรุกฝีเท้าจัดดได้สบายๆ ในวัยแค่ 23 ปี ถือว่าฝีเท้าของเขา พัฒนาไปเร็วกว่าอายุเอามากๆ

ตำแหน่งกองกลาง

นาทีนี้ชื่อของ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ คงคุ้นหูแฟนบอลเป็นอย่างดี หลังทำผลงานได้อย่างเข้าตากับ เรอัล มาดริด สามารถยืนได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกองกลางตัวรับ หรือ มิดฟิลด์ริมเส้น ขึ้นอยู่กับว่าเทรนเนอร์ จะมอบบทบาทไหนให้เขาโชว์ฟอร์ม ซึ่งตัวนักเตะรายนี้ ทำได้ดีทุกตำแหน่งพอๆ กัน ด้วยวัยเพียงแค่ 24 ปี อีกไม่นานคงก้าวขึ้นไปเป็นซูเปอร์สตาร์ได้แน่ๆ

ตำแหน่งกองหน้า

ตัวเก๋าอย่าง เอดินสัน คาวานี่ ที่เพิ่งจะย้ายไปอยู่กับ บาเลนเซีย แบบไม่มีค่าตัว กำลังเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองอยู่ในตอนนี้ หากสภาพร่างกายของเขาฟิตเต็มร้อย รับรองเลยว่าแนวรับคู่แข่ง ย่อมเจอกับงานยาก ไม่ได้รับมือเขาง่ายๆ เพราะเป็นดาวยิงจมูกไว จบสกอร์คม แถมยังมีเล่ห์เหลี่ยมการเล่นที่แสนแพรวพราว

สตาร์ประจำทีม

สำหรับแนวรุกยุคใหม่ ที่ดูแล้วน่าจะถูกจับตามองจากสื่อมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าตัวเป้า จากสโมสร ลิเวอร์พูล ที่ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวแสนแพง แต่ฟอร์มยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก อย่างไรก็ตามกุนซือคงไม่ตัดชื่อของเขาทิ้งแน่นอน เพราะตัวเลือกอื่นๆ ที่มีอยู่ในมือ ไม่มีใครสร้างความอันตรายได้เท่ากับเขาอีกแล้ว

เป้าหมาย

ทีมชาติอุรุกวัย-1

เป้าหมายสูงสุดของ อุรุกวัย ในการมาลุยบอลโลกหนนี้ คงต้องตั้งธงไว้ไม่ต่ำกว่าเดิม คือ ไปให้ถึงรอบ น็อค เอาท์ ให้ได้ แล้วค่อยมาลุ้นกันว่า จะไปชนกับตอหรือไม่? แค่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม คว้าโควต้า แชมป์ หรือ รองแชมป์ กลุ่ม เอช ก็ไม่ใช่งานง่าย เพราะต้องดวลกับของแข็งทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น โปรตุเกส, เกาหลีใต้ และ กาน่า

ถ้าทะลุเข้าไปได้ไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แฟนบอลคงตัดเกรดให้ผ่านแบบสบายๆ ถือว่าเป็นกำไรอย่างที่สุด หากนำไปวัดกับผลงานครั้งก่อน ที่จอดป้าแค่รอบ 16 ทีมเท่านั้น

เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง