ทีมชาติคอสตาริกา อีกหนึ่งชาติตัวแทนจากโซนคอนคาเคฟ กว่าที่พวกเขาจะฟันฝ่าอุปสรรคเข้ามา จนได้โควต้าเข้าร่วมมาเล่นรอบสุดท้าย ต้องลุ้นกันเหนื่อยแทบขาดใจ เพราะฟอร์มช่วงรอบคัดเลือก ทำได้เพียงแค่จบอันดับที่ 4 ในโซนเท่านั้น
อย่างน้อยผลงานดังกล่าว ยังดีพอให้พวกเขาได้ไปเล่นรอบเพลย์ ออฟ แล้วเจอกับคู่แข่งจากโซน โอเชียเนีย อย่าง นิวซีแลนด์ ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว ศักยภาพของทั้งคู่ไม่ได้ต่างกันมากนัก เผลอๆ พวกเขาอาจเหลื่อมเหนือกว่าเล็กน้อย ด้านพละกำลังของผู้เล่น
การกลับมาครั้งนี้ ขุนพลภายในทีมคงอยากแก้ตัวจากรอบก่อน ที่ได้เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายเช่นกัน เพียงแต่ผลงานไม่เป็นที่น่าจดจำเท่าไหร่นัก มีเพียงแค่หนึ่งแต้มกลับบ้านเป็นการปลอบใจ ไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย จากการที่โดนจับไปอยู่กลุ่ม อี ร่วมกับ บราซิล, สวิตเซอร์แลนด์ และ เซอร์เบีย
ว่ากันตามตรงแล้วจุดเด่นของพวกเขา ไม่ใช่เรื่องแทคติกส์ หรือ การเล่นฟุตบอลที่สวยงาม แต่เน้นไปที่ความทุ่มเท วินัยในเกมรับ และ ทีมเวิร์คระหว่างผู้เล่น ที่ช่วยสอดประสานงานกันเป็นอย่างดี ช่วยลบจุดอ่อนเรื่องความสามารถของนักเตะ แล้วใช้ความใจสู้มาทดแทนได้ดีเยี่ยม
เชื่อว่าการได้มาเล่นในโซนเอเชีย บนแผ่นดินที่มีสภาพอากาศค่อนข้างร้อน คล้ายคลึงกับภูมิภาคของพวกเขา อาจเป็นข้อได้เปรียบเล็กๆ น้อยๆ ที่มีสิทธิ์ทำให้พวกเขาทำผลงานได้ดีขึ้นจากเดิม แม้ว่าจะต้องต่อกรกับชาติที่เป็นงานหิน อาทิ เช่น เยอรมัน, สเปน และ ญี่ปุ่น ก็ตาม
มาตรฐานที่เป็นบทเเรียนครั้งก่อน คงทำให้พวกเขา เตรียมการเรื่องต่างๆ ให้มีความพร้อมมากขึ้น หวังให้บทสรุปสุดท้าย ลงเอยดีกว่าครั้งก่อนที่ผ่านมา มาดูกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ กุนซือ, นักเตะ และ เป้าหมายสูงสุดของพวกเขา จะเป็นอย่างไรกันบ้าง?
กุนซือ ทีมชาติคอสตาริกา
สมาคมฟุตบอลคอสตาริกา มีการปรับเปลี่ยนตัวกุนซือ ที่จะเข้ามาทำทีมลุยศึก เวิลด์ คัพ ช่วงปลายปีนี้ ด้วยการเลือกมอบตำแหน่งดังกล่าวให้ หลุยส์ เฟร์นานโด ซัวเรซ กุนซือวัย 62 ปีชาวโคลอมเบีย มารับตำแหน่งเมื่อช่วงกลางปีก่อน
ซัวเรซ เริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีม ด้วยการรับงานคุมทีมในลีกบ้านเกิดดอย่าง แอตเลติโก นาซิอองนาล ตั้งแต่ปี 1999 แต่อยู่ในตำแหน่งได้เพียงแค่ราว 4 เดือนเท่านั้น เพราะผลงานไม่เข้าตา หลังคุมทีมไปได้เพียงแค่ 6 เกม เลยแยกทางกันไปตามระเบียบ
ต่อมาเขาได้รับโอกาสแบบก้าวกระโดด ให้ไปรับงานคุม ทีมชาติเอกวาดอร์ ที่อยู่ในโซนอเมริกาใต้ แล้วปรากฏว่า พัฒนาทีมไปในทิศทางที่ดี จนอยู่ในตำแหน่งได้นานถึง 3 ปี เปลี่ยนแปลงจากหมูในโซน ให้กลายเป็นหมูเขี้ยวตัน ที่ใครเจอก็ไม่สามารถชนะได้ง่ายๆ ด้วยพื้นฐานเกมรับอันแข็งแกร่ง
หลังจากพักงานไปราวสองปี ซัวเรซ กลับมาจับงานคุมทีมอีกครั้งในระดับสโมสรปี 2009 ข้ามไปหากินในประเทศเปรู กับทีมชั้นนำของลีกอย่าง ฮวน อูริช แต่อยู่กับทีมได้ราวปีเศษ สโมสรก็เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทำให้เขาต้องตกงานไปตามระเบียบ
ในปี 2011 ซัวเรซ ได้รับงานคุมทีมระดับชาติอีกครั้งกับ ฮอนดูรัส ชาติโนเนมจากโซนคอนคาเคฟ โดยควบตำแหน่งทั้งผู้จัดการทีมชุดใหญ่ และ ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี เพื่อหวังพัฒนาทีมไปพร้อมๆ กัน แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดอีกเหมือนเคย เนื่องจากผลงานไม่ได้กระเตื้องขึ้น จนเป็นที่น่าพอใจตามเป้า
ซัวเรซ ว่างงานยาวไปเกือบ 3 ปี แล้วหันมาจับงานคุมทีมระดับสโมสรอีกครั้ง ด้วยการหากินอยู่แถบอเมริกาใต้ ทั้งในบ้านเกิดและประเทศใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็น โดราดอส ซินาโลอา, ซีดี ลา เอควิดาด, จูเนียร์ เอฟซี และ แอตเลติโก บูคารามันกา
จากประสบการณ์อันโชกโชน การทำทีมที่เข้ากับสไตล์ของ คอสตาริกา เลยทำให้เขาได้งานอีกครั้งเมื่อปีก่อน แล้วยังอยู่ในตำแหน่งยาวมาจนถึงปัจจุบัน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบฟ้าผ่า เขาจะได้คุมทีมลุยศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้อย่างแน่นอน
ระบบการเล่นที่เขาชื่นชอบ คือ 4-2-3-1 เน้นความเหนียวแน่นในเกมรับ ช่วงชิงพื้นที่ในแดนกลาง พยายามคุมโซนกลางสนามให้แน่น ไม่ปล่อยให้คู่แข่งตั้งเกมได้ง่ายๆ แล้วอาศัยเกมสวนกลับเป็นอาวุธเด็ด อาจจะดูอึดอัดสำหรับแฟนบอล แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ เขาพร้อมที่จะแลกทุกอย่างเพื่อเก็บแต้ม
นักเตะ ทีมชาติคอสตาริกา
อายุเฉลี่ยของนักเตะชุดนี้ อยู่ที่ราว 27.7 ปี มีการผสมผสานระหว่างตัวเก๋ามากประสบการณ์ บวกกับผู้เล่นหน้าใหม่ ที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในอนาคต ส่วนใหญ่แล้วค้าแข้งอยู่ในลีกแถบอเมริกาใต้ และ ลีกบ้านเกิด มีแค่สตาร์บางรายที่ฝีเท้าดีพอจะไปเล่นในยุโรป อันดับ ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง อยู่ที่ 34 ของโลก ดีขึ้นตามผลงานในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา
ตำแหน่งผู้รักษาประตู
ครั้งนี้คงเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้าย ของนายทวารจอมเก๋า ที่มักจะถูกแฟนบอลมองข้ามเรื่องฝีมือการเซฟอย่าง เคเลอร์ นาบาส มือสองจากสโโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ความจริงแล้ว ศักยภาพของเขาสามารถเล่นเป็นมือหนึ่งให้กับหลายทีมได้สบายๆ ปฏิกิริยาอันรวดเร็ว การยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม ล้วนเป็นจุดขายของประตูวัย 35 ปี ที่ทัวร์นาเมนต์นี้ทีมคงต้องพึ่งเเขาไม่น้อย
ตำแหน่งกองหลัง ทีมชาติคอสตาริกา
ตัวหลักในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค ที่ยืนทางฝั่งซ้าย แล้วต้องรับบทบาททั้งการเล่นเกมรับ และ ขึ้นบอลจากแดนหลัง คงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก ฟรานซิสโก้ คัลโว่ กองหลังวัย 30 ปี ที่เก็บประสบการณ์มาเต็มเปี่ยม จากการลงเล่นให้กับ คอนยาสปอร์ ในลีกตุรกี การเข้าบอลที่ถึงลูกถึงคน ความนิ่งในการจัดโซนเกมรับ ทีมคงต้องพึ่งเขามากหน่อยในการหวังผ่านเข้ารอบต่อไป
ตำแหน่งกองกลาง
หากจะมองหานักเตะสายเลือดใหม่ ที่ทีมจะหวังพึ่งในระยะยาว คงต้องชี้เป้าไปที่ตำแหน่งปีกตัวจี๊ด ที่เพิ่งจะมีดาวรุ่งฝีเท้าจัดอย่าง เจวิสัน เบนเน็ตต์ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในแนวรุก ดาวเตะรายนี้มีสปีดที่จัดจ้าน การเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่ว และ จิตใจที่กล้าเล่นเกินตัว ต้องมาลุ้นกันว่าในวัยย่างเข้า 19 ปี เขาจะใช้เวทีนี้แจ้งเกิดได้หรือไม่?
ตำแหน่งกองหน้า
ตัวเลือกในแนวรุกของ คอสตาริกา อาจไม่มีให้เลือกใช้มากนัก แล้วหนึ่งในศูนย์หน้าที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก เล่นได้อย่างร้อนแรงให้กับต้นสังกัด เฮเรดิโน่ อย่าง แอนโทนี่ คอนเตร์ราส ดาวเด่นวัย 22 ปี น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเขาสามารถไปกับบอลเองได้ มีความเร็วความคล่องตัว และ จังหวะการจบสกอร์ก็ถือว่าไว้ใจได้ ไม่แน่ว่าทัวร์นาเมนต์นี้ อาจจะกลายเป็นบันไดปูทางให้เขา ได้ย้ายมาเล่นในยุโรปในอนาคตก็เป็นได้
สตาร์ประจำทีม
ดาวเด่นขาประจำที่เป็นตัวแบกในแนวรุก คือ อดีตผู้เล่นของสโมสร อาร์เซน่อล อย่าง โจเอล แคมป์เบล ที่ตอนนี้อายุอานามล่วงเข้าเลขสามไปเรียบร้อยแล้ว เขาคือหนึ่งในผู้เล่นที่ทักษะฟุตบอลดีที่สุดในทีมชุดนี้ สามารถเล่นแบบชงเองกินเองได้ ไม่ต้องมีคนอื่นมาคอยป้อนบอลให้ แม้ว่าจะหวงบอลไปหน่อยในบางครั้ง แต่จังหวะชี้เป็นชี้ตาย เขาก็พายิงประตูให้ทีมมาแล้วนักต่อนัก
เป้าหมาย

วิเคราะห์กันตามตรงแล้ว คอสตาริกา ที่ต้องมาอยู่ร่วมกลุ่ม อี กับ เยอรมัน, สเปน และ ญี่ปุ่น ศักยภาพทีมของพวกเขาเป็นรองคู่แข่งทุกชาติ หวังแค่ให้มีแต้มติดไม้ติดมือกลับบ้าน ไม่จบในตำแหน่งบ๊วยของกลุ่มก็ยากเต็มทน
สิ่งเดียวที่น่าจะช่วยให้พวกเขาทำผลงานได้ดี คือ เรื่องของสภาพอากาศ ที่น่าจะร้อนตับแตกในประเทศกาตาร์ แต่น่าจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้มากนัก เพราะภูมิประเทศของพวกเขา ไม่ได้มีสภาพอากาศที่แตกต่างกับสนามกลางเท่าไหร่
เป้าหมายที่หวังได้มากที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นเก็บแต้มให้ได้มากกว่าหนึ่งคะแนนในครั้งก่อน เรื่องมองไกลถึงการผ่านเข้ารอบ น็อค เอาท์ คงเลิกฝันถึงไปได้เลย ในเกมที่เจอกับสองชาตยักษ์ใหญ่ ขอแค่ไม่แพ้เละจนอับอาย แล้วสู้ได้สมศักดิ์ศรี เท่านี้แฟนบอลก็น่าจะพอใจแล้ว
เว็บไซต์ worldcup2022qa จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลที่สดใหม่ เกี่ยวกับชาติต่างๆ ทั้ง 32 ทีม ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน เป็นทางเลือกให้กับแฟนบอล ที่ชื่นชอบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ว่ากันว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกฟุตบอล ต้อนรับกระแส เวิลด์ คัพ ฟีเวอร์ ซึ่งกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมใจลุ้นเตรียมใจเชียร์ชาติขวัญใจ ให้กำลังใจนักเตะที่คุณชื่นชอบไปพร้อมๆ กัน 4 ปีมีครั้ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง